บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index -5.1 จุด -0.39% ปิดที่ 1292.7 จุด ปรับลงจากประเด็นการเมืองหลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ถอดถอน  นายเศรษฐา ทวีสิน   ทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้คณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลง    และรอประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐกลางสัปดาห์คืนนี้    โดยวันนี้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมอยู่ที่ 5.32 หมื่นล้านบาท  โดย Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีหลักๆ คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) ธนาคาร (KTB TTB SCB) กลุ่มขนส่ง (AOT) ฯลฯ  กลุ่มที่กดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มโรงพยาบาล(BDMS)  กลุ่มพลังงานต้นน้ำ PTTEP, TOP, BCP ฯลฯ

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น 

▪️CPALL -4.7%  CPAXT -4.27%  BJC – 2.9% 

ปรับลงหลังข่าว ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ถอดถอน  นายเศรษฐา ทวีสิน   ทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้คณะรัฐมนตรีสิ้นสุดลง     ทำให้ตลาดประเมินการเดินหน้าผลักดันนโยบาย Digital wallet ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในช่วงก่อน  KSS ยังคงมุมมองบวกต่อหุ้นค้าปลีก ยังเน้นลงทุน CPALL, CPAXT 

🛢PTTEP -1.02%  BCP -3.6% TOP – 1.4%

PTTEP ปรับลงมีจิตวิทยาลบตาม ราคาน้ำมันดิบพลิกลงอีกครั้งหลังจากขึ้นแรงเมื่อวันก่อน อิง น้ำมันดิบ Brent -1.96%d-d ปิดที่ US$ 80.69/barrel   สถานการความตึงเครียดไม่ได้มีปัจจัยหนุนใหม่ และถูกกดดันจากข่าว OPEC ลดคาดการณ์ Demand น้ำมัน   กลุ่มโรงกลั่น ปรับลงตามค่าการกลั่น อิงตลาดสิงคโปรค์ลงแรง -25%d-d อยู่ที่ 4.62 

🥤CBG +5.98% 

หุ้นปรับขึ้นแรง โดยการประชุมนักวิเคราะห์  CBG เป็นโทนบวก จาก JV ในกัมพูชาที่น่าจะมีกำไรมากขึ้น  JV ในกัมพูชาที่ CBG ถือหุ้น 60% จะได้รับประโยชน์จากภาษีและค่าใช้จ่ายขนส่งที่น้อยลง โดยจะมีกำไรมากขึ้นในปี 2026 ประมาณ 200 ล้าน บาท   ใน 3Q24 ยอดขายยังน่าจะดี q-q เนื่องจาก market share เพิ่มขึ้นในฝั่งของเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มจาก 24.3% ในปัจจุบันเป็น 26% ในปลายปี   KSS มีคำแนะนำ Neutral และราคาเป้าหมาย 74 บาท 

〽️XO + 2.97% 

ปรับขึ้นจากมุมมอง Slightly positive จากการจ่ายปันผล 1H24 สูง 1.7 บาท (yield 6.7%, XD 27 ส.ค.,จ่าย 10 ก.ย.) เป็นระดับมากกว่าปกติ เนื่องจากมีเงินสดสะสมสูง 1.94 บาท/หุ้น และคิดเป็น Div Payout 141% (ปกติจ่าย 50%) ขณะที่ การดำเนินงานงวดนี้กำไร 2Q24 ที่ 249 ลบ. (+17%y-y, -5%q-q)  ใกล้เคียงตลาดคาด เราแนะนำ “Neutral” จาก TP ปรับไปใช้ปี 2025F ที่ 27 บาท อิง PER15x        

🏘LH – 5.6% 

ปรับลงแรงรับรายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.02 พันลบ. (-30% y-y, -17% q-q) ต่ำกว่าเราและตลาดคาด จาก % GPM ต่ำกว่าคาด โดยรวม core operation ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะการโอนและ % GPM ที่ลดลงต่อเนื่อง y-y  เราปรับมาใช้ TP25F ที่ 6.50 บาท คง Trading Buy มองราคาหุ้นยังมีโอกาสลดลงและ overhang ทั้งจากกำไรสุทธิ 2Q24 ต่ำกว่าคาด, outlook ใน 2H24F ยังไม่ดีนัก และแนวทางปรับกลยุทธ์ของ LH เพื่อลดการสูญเสีย market share ค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีความชัดเจนโดยมีเพียง % dividend yield ที่สูง 7.5-8.4% ใน 2024-25F เป็นตัวประคองราคาหุ้น

🏢AMATA – 8.1%

ปรับลงรับรายงานกำไรธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 2% yoy แต่ลดลง 14% qoq เป็น 332 ล้านบาทใน 2Q24 ต่ำกว่าคาดการณ์ของเราเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลงและต้นทุนขายและบริหารที่สูงขึ้น  บริษัทบันทึกกำไร 238 ล้านบาทจากการขายหุ้น 20% ใน Amata City Halong ให้พันธมิตรภายใต้ส่วนของผู้ถือหุ้น (ไม่ใช่งบกำไรขาดทุน)  เราคาดกำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H24 สนับสนุนจาก Backlog 19.6 พันล้านบาท คงคำแนะนำ ซื้อ

💻KCE -0.65%

ราคาหุ้นช่วงเช้าปรับขึ้นแรงและบ่ายปรับลง  จากการร่วมประชุม โดยงวด 3Q24 กำไรอาจจะอ่อนตัวลงเล็กๆ จากข้อจำกัดการขยายตัวรายได้ในสินค้า HDI ที่มี Demand สูง ขณะที่ GPM มีโอกาสอ่อนลง q-q จากผลกระทบ FX และราคาทองแดง แต่แนวโน้มฟื้นตัว 4Q24 ดีขึ้น จาก Order ที่มีอยู่แล้ว เชิงกลยุทธ์รออ่อนตัวจึงทยอยตั้งรับใหม่

- Advertisement -