พัฒนาการเชิงบวก / 1315-1,335

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET ปรับตัวขึ้นต่อ: คาดแรงหนุนมาจากการเปิดรับสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน พัฒนาการเชิงบวกของศก.และการเมืองไทย หากแต่ลดทอนลงด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ทั้งนี้ คาด SET Index จะได้ Sentiment หนุนจากมุมมองที่เปิดรับสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน สอดรับกับ Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ต่างปิดในแดนบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกล่างความหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่แจ็กสันโฮล สอดรับกับ CME FedWatch Tool ที่ให้น้ำหนัก 100% สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.67 โดยให้น้ำหนัก 76% สำหรับการปรับลด 0.25% ซึ่งทางฝ่ายมองว่าความคาดหวังของตลาดต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรงจนเกินไปเป็นสัญญาณ บ่งชี้ว่าตลาดคลายกังวลศก.สหรัฐฯ นอกจากนี้ คาด SET Index จะได้ แรงหนุนจากการเปิดรับความเ่สียงต่อการลงทุนในไทย สอดรับกับวานนี้ที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (ไม่รวม Big lot ของ SCCC) ที่ 1.7 พันลบ. ท่ามกลางพัฒนาการเชิงบวกของศก.และการเมืองไทย หลังสภาพัฒน์เผย GDP2Q67 ขยายตัว 2.3% y-y เร่งตัวขึ้นจาก 1.5% y-y ใน 1Q67 กอปรกับมองแนวโน้มศก.ไทยปี 67 ขยายตัว 2.3-2.8% จาก 1.9% ในปี 66 โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยว การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐใน 2H67 และการกลับมาขยายตัวอย่างช้าๆของภาคการส่งออก ส่วนด้านการเมืองไทยมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังพรรคร่วมรัฐบาลทยอยส่งรายชื่อรมตโดยนายภูมิธรรม เวชยชัยเผยจะต้องส่งรายชื่อให้แล้วเสร็จในวันนี้ อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัด โดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 2.97% ปิดที่ $74.37 ต่อบาร์เรล หลังรมต.ต่างประเทศของสหรัฐฯอยู่ในระหว่างการเยือนอิสราเอล โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลอุปสงค์น้ำมันจากจีน

กลยุทธ์การลงทุน : 1) คาดกนง.คงดอกเบี้ย: BBL, KTB, KBANK, SCB 2) ดอกเบี้ยสหรัฐฯลง/บาทแข็ง: AAV, DELTA, GULF 3) คาดงบดีต่อหรือดีขึ้นใน 3067: AAI, ADVANC, BEM, ITC, TU, CPF 4) ท่องเที่ยวฟื้น: AOT, BA, CPN และ 5) งบฯภาครัฐ: CK, STEC

ปัจจัยบวก

  • ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งเข้าใกล้ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ นับเป็นการแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน มองเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ Fund flow
  • ททท. เปิดตัวโครงการใหญ่ “Nihao Month” กระตุ้นจีนเที่ยวไทยเดือนก.ย.-ต.ค.67 หวังเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเพิ่มปีนี้อีก 2.5 แสนคน
  • NIA เผยจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศจีนพุ่งสูงขึ้น 129.9% y-y แตะที่ 17.25 ล้านคนในช่วง 7M67 โดยได้รับแรงหนุนจากการออกมาตรการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
  • PBOC เผยจีนและก.คลังสหรัฐฯได้ตกลงกันในการมอบหมายบุคคลให้รับหน้าที่ติดต่อประสานงาน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ความติ้งเครียดทางการเงินในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่สองยักษ์ใหญ่ด้านศก.ระดับโลกจะหาจุดยืนร่วมกันได้
  • Rightmove เผยว่าจำนวนผู้ซื้อที่ติดต่อตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเข้าชม บ้านที่ประกาศขายเพิ่มขึ้น 19%y นับตั้งแต่มีการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของ BOE เมื่อวันที่ 1 ส.ค.67 ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ค.67 ที่เพิ่มขึ้น 11%

ปัจจัยลบ

  • HBA เผยภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านใน 1H67 ชะลอตัวลงทุกระดับราคายกเว้นกลุ่มราคา 20 ลบ.ขึ้นไป และราคา 5.01-10 ลบ. โดยมียอดเซ็นสัญญาสั่งสร้างบ้าน มูลค่ารวม 4,505 ลบ. หรือ ลดลงประมาณ 15% y~y นอกจากนี้ คาดว่าเป้ารับสร้างบ้าน ทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ราว ๆ 12,000 ลบ.ลดลงประมาณ 4% y-y
  • AIS เผยผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่า แม้คนไทยจะมีการพัฒนาความเข้าใจในการใช้งานบนโลกดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นจนผลในภาพรวมอยู่ในระดับพื้นฐาน แต่ยังมีจุดที่น่ากังวล เพราะคนไทยเกินครึ่งยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security and Safety)

PICKS OF THE DAY

AAV BUY

  • เป้าหมาย 2.40 / 2.50 แนวรับ 2.14 / 2.20
  • จำนวนนักท่องเที่ยวดี มีอีเว้นช่วยหนุนต่อ: ภาพกดดันจากความกังวลไทยจะเผชิญการเมืองสูญญากาศลดลง พร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม(1 ม.ค.-11 ส.ค.67) ที่เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 21.79 ล้านคน โตกว่า 33% จากปีก่อน นอกจากนี้ยังมีโครงการจากรัฐบาล Nihao Month ในเดือน ก.ย.- ต.ค. 67 คาดจะดันยอดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยได้เพิ่มอีก 2.5 แสนคนในช่วงดังกล่าว
  • 2H67 คาดผู้โดยสารดีกว่า 1H67: ผู้โดย สารใน 2Q67 เป็นจุดต่ำสุดแล้ว ทำให้ 2H67 ผู้โดย สารจะดีกว่า 1H67 จาก market share ในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 40% อีกทั้งยังมีการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบินทั้งในและ ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีน อินเดียที่ได้ seat quota เพิ่ม และอาเซียน ซึ่งจะมีการรับเครื่องบินใหม่เพิ่มอีก 3 ลำใน 2H67 เป็น 60 ลำ รองรับ high season ในช่วง 4Q67 อีกทั้งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จะเห็นกำไร Fx กลับมาชดเชยใน 1H67 ที่มีขาดทุน

BBL BUY

  • เป้าหมาย 140.00 / 145.00 แนวรับ 130.00
  • ได้ประโยชน์จากการคงดอกเบี้ยนโยบาย: ทางฝ่ายคาดว่าการประชุม กนง. รอบนี้คณะกรรมจะมีการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ ซึ่งจะทำให้กลุ่มธนาคาร รวมไปถึง BBL ได้ประโยชน์จากการที่ผลตอบแทนสินเชื่อจะทรงตัวอยู่ได้
  • เชี่ยวชาญสินเชื่อรายใหญ่: BBL เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญสินเชื่อรายใหญ่ ซึ่งถึงแม้ว่าผลตอบแทนจะต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น แต่ก็เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ และในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี ประกอบกับงบประมาณที่ประกาศใช้ จะทำให้มีความต้องการลงทุนทั้งจากภาครัฐ และเอกชน ซึ่งสินเชื่อรายใหญ่จะเป็นสินเชื่อประเภทแรก ๆ ที่เติบโตก่อน

 

 

- Advertisement -