KS Daily View 20.08.2024 >>> ลุ้นแนวต้าน 1,330 จุด หลัง GDP ดีกว่าคาด ตอบรับตั้งรัฐบาลเร็ว คาดดัชนีวันนี้ซื้อขายในกรอบ 1,310 – 1,330 จุด แนะนำ TOP, KISS

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนีวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อ ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,330 จุด และสร้างแนวรับใหม่สูงขึ้นที่ราว 1,310-1,320 จุด มองแนวโน้มหลักของดัชนีเป็นภาพของการค่อยๆกลับมาฟื้นตัว หลังหุ้นไทยได้ sentiment บวกจากรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2567 ขยายตัว 2.3% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.2% YoY และเร่งตัวขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่ 1.6% YoY สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อีกทั้งคาดครึ่งหลังเร่งฟื้นตัวต่อโดยเฉพาะท่ามกลางภาพการเมืองที่เริ่มชัด หลังได้นายกฯใหม่เร็วและส่งสัญญาณพร้อมสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ต่างชาติเริ่มกลับมาลงทุนในไทย โดยวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1,690.63 ล้านบาท หากไม่นับการขายหุ้น Big Lot ของ SCCC มูลค่ารวม 12,177.18 ล้าน จากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในบริษัท จะเป็นการกลับมาซื้อหุ้นไทยสุทธิแตะระดับสูงสุดในรอบราว 3 เดือน มองลุ้นฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้าต่อ โดยกลุ่มที่ต่างชาติเข้าลงทุนในไทยมักเป็นกลุ่มใหญ่เช่น พลังงาน ธนาคาร และค้าปลีก ซึ่งกลุ่มเหล่านี้น่าจะได้อานิสงค์ของฟันด์โฟลว์ต่างชาติ นอกจากนี้ในส่วนของค่าเงินบาทที่แข็งค่า

มองหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากบาทแข็งเช่น พลังงาน (TOP), โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC), ขนส่ง (AAV PRM) ขณะที่กลุ่มที่เสียประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนเช่น อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF TU ASIAN AAI ITC STA TEGH)

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. วานนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย มูลค่า 1,690.63 ล้านบาท หากไม่นับการขายหุ้น Big Lot ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC มูลค่ารวม 12,177.18 ล้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในบริษัท โดยการกลับมาซื้อหุ้นสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบราว 3เดือน มองฟันด์โฟลว์ต่างชาติพลิกกลับมาไหลเข้าไทย หลังการเมืองเริ่มชัดและเศรษฐกิจเริ่มฟื้น
  1. ไทยตรวจพบเชื้อฝีดาษวานร (Mpox) สายพันธุ์ย่อย 8 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ Clade II (C.1) พบมากที่สุดถึง 85.34% ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่า Clade I ที่พบในแอฟริกา ซึ่งมีอัตราการตายต่ำกว่า 1% ขณะที่ Clade I สูงถึง 10% ประเทศไทยมีความพร้อมในการตรวจเชื้อได้ภายใน 24 ชั่วโมง และมุ่งเน้นการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปยังพื้นที่ระบาด
  1. สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ได้ประกาศยกเลิกการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน 2567 เนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณและเวลาที่กระชั้นชิด อย่างไรก็ตาม โอซีเอเปิดโอกาสให้ไทยเสนอตัวจัดงานนี้อีกครั้งหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพในปี 2025 มองเป็น sentiment ลบกับกลุ่มท่องเที่ยว
  1. Goldman Sachs ได้ปรับลดการคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จาก 25% เหลือ 20% หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด เช่น การเติบโตของยอดค้าปลีกและการยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ การปรับลดนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจหลีกเลี่ยงการถดถอยได้ เป็นบวกต่อทิศทางสินทรัพย์เสี่ยง
  1. General Motors (GM) ปลดพนักงานในแผนกซอฟต์แวร์และบริการกว่า 1,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุนของบริษัท หลังจากที่เคยมีการปลดพนักงานไปก่อนหน้านี้ในปีนี้ GM กำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าและบริการดิจิทัล การปลดพนักงานครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตในระยะยาวของบริษัท มองบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯหลายแห่งเริ่มมีการปลดพนักงานมากขึ้น สะท้อนทิศทางตลาดแรงงานอ่อนแอลง สนับสนุนมุมมองการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ Fed

Daily pick

TOP: ราคาพื้นฐานที่ 62.5 บาท 

มองเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงานที่คาดได้อานิสงค์คาดของฟันด์โฟลว์ต่างชาติ รวมถึงเป็นหุ้นที่มองว่าจะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็ง ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐานในส่วนของค่าการกลั่นมีทิศทางของการฟื้นตัวจากการลดอัตราการใช้กำลังกลั่นของโรงกลั่นในภูมิภาค และอุปสงค์ดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ด้าน valuation ไม่แพงเทรด PE 8x และ PB 0.7x ขณะที่ให้อัตราปันผลสูง 5.6%

KISS: ราคาพื้นฐาน 5.24 บาท 

มองเป็นหุ้นตัวเล็กตัวหนึ่งที่น่าสนใจเนื่องจากคาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตสูง 24% ปี 2567 โตต่ออีก 20% ปี 2568 และ18% ปี 2569 ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่ออกมาก็ทำได้ดีที่ 39 ลบ. โตแรง 21% QoQ และ 42% YoY ครึ่งแรกกำไรรวมทำได้ 70 ลบ. ขณะที่ภาพทั้งปีทำกำไรคาดการณ์ที่ 163ลบ. สะท้อนแนวโน้มกำไรครึ่งหลังเร่งขึ้นอีก ด้าน valuation PEG เทรดที่ 0.8x บน PE ปัจจุบัน 16x ขณะที่กำไรเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าโต 22% และยังให้ปันผลดีที่ราว 4%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของโซนยุโรปเดือน ก.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.5% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +2.9% YoY
  • วันพุธ ติดตามการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อด้วย รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minute)
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 45.8 จุด ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (HCOB Service PMI Flash) ) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.9 จุด และปิดท้ายด้วยรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.27 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.7% YoY ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.8%YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +2.7% YoY ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.6% YoY
- Advertisement -