บล.พาย
CRC: Central Retail Corporation PCL
กำไร 2Q24 ไม่ค่อยสดใส
รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.7 พันล้านบาท (+6%YoY) หลังตัดรายการพิเศษจะมีกำไรปกติที่ 1.6 พันล้านบาท (-6%YoY, -36%QoQ) เป็นไปตามที่เราและ BB consensus คาดกำไร 1H24 คิดเป็น 49% ของประมาณการกำไรปี 2024 การลดลง YoY มาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -1%YoY (ไทย -2%, เวียดนาม -4%, อิตาลี +6%) บวกกับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่ลดลงจาก Grab Food และไม่ได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก Gucci แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัว YoY จากสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น การลดลง Q0Q เป็นปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 37% YTD’2024 เป็นโอกาสในการเข้าสะสม เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 40 บาท
กำไรปกติ 2Q24 ลดลง YoY และ QoQ
- ธุรกิจค้าปลีกอาหาร (39% ของยอดขาย) มียอดขาย 2.2 หมื่นล้านบาท (+10%YoY) ใน 2Q24 ผลจาก SSSG กลุ่มค้าปลีกอาหารที่ -1%YoY (ไทย ทรงตัว YoY และ เวียดนาม -2%) และมีการขยายสาขา Go wholesale 2 สาขาใน 2Q24 ทำให้ EBITDA สำหรับธุรกิจค้าปลีกอาหารลดลง YoY เป็น 1.7 พันล้านบาท (-4%YoY) ผลจากค่าใช้จ่ายสาขาใหม่
- ธุรกิจฮาร์ดไลน์ (33% ของยอดขาย) มียอดขาย 1.9 หมื่นล้านบาท (-1%YoY) ใน 2Q24 ผลจาก SSSG กลุ่มฮาร์ดไลน์ที่ -8%YoY (ไทย -7% และเวียดนาม -15%) โดยมาจาก SSSG ของไทวัสดุที่ -4%YoY ใน 2Q24 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจากการลดลงของยอดขาย Power Buy แม้ว่ามีการเปิดสาขาไทวัสดุ 9 สาขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ที่เวียดนามยังมีผลกระทบจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย แต่ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น พร้อมการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี ทำให้ EBITDA สำหรับธุรกิจฮาร์ดไลน์เพิ่มขึ้น YOY เป็น 2.4 พันล้านบาท (+12%YoY) และมี EBITDA margin ขยายตัว 130 bps YoY
- ธุรกิจแฟชั่น (28% ของยอดขายรวม) มียอดขาย 1.6 หมื่นล้านบาท (+7%YoY) ใน 2Q24 ผลจาก SSSG กลุ่มแฟชั่นที่ +3%YoY (ไทย +1 YoY, อิตาลี +9%) ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และผลจากการปรับปรุงสาขาชิดลม บางนา ทำให้ EBITDA ธุรกิจแฟชั่นเพิ่มขึ้น YoY ที่ 4 พันล้านบาท (+6%YoY)
- รายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่ 2.5 พันล้านบาท (+6%YoY) หนุนจากอัตราการเช่าที่สูงขึ้นเป็น 89% ใน 2Q24 จาก 88% ใน 2Q23 และพื้นทีให้เช่าที่เพิ่มขึ้นเป็น 745,000 ตร.ม. (+1%YoY)
คาดผลประกอบการปี 2024 เติบโตต่อเนื่อง
- เราคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตปี 2024 จากการเน้นการเติบโตผ่านการปรับปรุงสาขาธุรกิจใหม่ (Go Wholesale) และไทวัสดุ และเน้นการควบคุมต้นทุน โดยเราคาดกำไรปกติเติบโต 3% YoY ในปี 2024 หนุนจากรายได้เติบโต 5%YoY แบ่งเป็นรายได้ธุรกิจค้าปลีกอาหารที่ +7% ธุรกิจฮาร์ดไลน์ที่ +1% และธุรกิจแฟชั่นที่ +6%
- การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 3QTD’2024 ที่ -1% YoY ใกล้เคียง 2Q24 แต่ 10 วันแรกของเดือนส.ค. 2024 พลิกกลับมาบวกได้ YoY
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ไทวัสดุคือพระเอก 2H24
มูลค่าพื้นฐาน 40.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วยWACC 8.0% และ TG 1.5% เทียบเท่า 25xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย (เดิม 43.00 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อน SSSG ที่ต่ำกว่าคาด
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการเข้าลงทุนในบริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด (สัดส่วน 75%) เงินลงทุน 468 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ชั้นนำ เช่น HOKA, Saucony, Teva โดยบริษัทนี้มียอดขายราว 1 พันล้านบาทต่อปี (คิดเป็น 2% ของยอดขายกลุ่มแฟชั่นในไทย) และมีกำไรราว 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่ง CRC จะรับรู้กำไรผ่านงบใน 3Q24