KS Daily View 22.08.2024 >>> มอง SET แกว่งกรอบแคบหลังบวกมา 4 วันติด กนง. มีมติ 6:1 คงอัตราดอกเบี้ย 2.5% กระแสข่าวดิจิตอลวอลเล็ตแจกเป็นเงินสดให้กลุ่มเปราะบางก่อน บันทึกเฟดเสียงส่วนใหญ่สนับสนุการลดอัตราดอกเบี้ยเดือน ก.ย. แนะนำ CPAXT, BBL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,325 – 1,345 จุด คาดแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากบวกติดต่อกัน 4 วัน

ปัจจัยต่างประเทศ ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับ 5,620.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.42%ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิม จากการเปิดเผยบันทึกการประชุมเฟดเดือน ก.ค. เสียงส่วนใหญ่ มองหากเงินเฟ้อชะลดตัวลงเป็นไปตามที่คาดไว้ อาจเหมาะสมที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป คือเดือน ก.ย.ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานมีการแก้ไขปรับลดลง 818,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงมากกว่าคาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว

ปัจจัยภายในประเทศ กนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพ  รวมถึงกระแสข่าวรัฐบาลใหม่เดินหน้าโครงการดิจิตัลวอลเล็ต เล็งแจกเป็นเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบางก่อน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน “Thailand Focus 2024” 28-30 ส.ค.67 ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ให้เล่นหุ้นที่ได้ประโยชน์หากนโยบายดิจิตัลวอลเล็ตที่อาจจะแจกเป็นเงินสด เช่น หุ้น CPAXT และหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ อย่าง BBL ที่กนง. คงอัตราดอกเบี้ย และเม็ดเงินต่างชาติที่กลับเข้าลงทุนหุ้นไทย

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน ยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพ และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อภาวะการเงิน และเศรษฐกิจโดยรวม
  • นสพ. ฐานเศรษฐกิจรายงานว่าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท บรรจุในนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร แจกเงินสด-โอนเงินเข้าบัญชี กลุ่มเปราะบาง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน แหล่งข่าวจาก สส.แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันกับ ฐานเศรษฐกิจว่า นโยบายใหม่ของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ที่จะแถลงต่อรัฐสภาจะบรรจุโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไว้ในนโยบายแน่นอนและที่ชัดเจนแล้วคือ การแจกเป็นเงินสด
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน “Thailand Focus 2024 : Adapting to a Changing World” ตอกย้ำความพร้อมและศักยภาพบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และเศรษฐกิจไทย ภายใต้ความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน ร่วมให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติ โดยปีนี้จะมี บจ. กว่า 113 บริษัทนำเสนอข้อมูลการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่าง 28-30 ส.ค.67 ที่โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก
  • บันทึกการประชุมเฟดเดือน ก.ค. เปิดเผยว่า เผยว่า “เสียงส่วนใหญ่” ของผู้กำหนดนโยบายเห็นว่าหากเงินเฟ้อชะลดตัวลงเป็นไปตามที่คาดไว้ อาจเหมาะสมที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป โดยมีการระบุว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาเป็นไปตามที่คาด การผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าจะมีความเหมาะสม
  • รายงานจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (Bureau of Labor Statistics) เผยว่าในเดือนมีนาคม 2024 มีจำนวนการจ้างงานที่น้อยกว่าที่รายงานไว้ในตอนแรกถึง 818,000 ตำแหน่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจมีการชะลอตัวมาก่อนหน้านี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อุตสาหกรรมมืออาชีพและบริการด้านธุรกิจ มีการปรับลดลงถึง 358,000 ตำแหน่ง ขณะที่อุตสาหกรรมการการท่องเที่ยวและพักผ่อนมีการปรับลดลง 150,000 ตำแหน่ง

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • CPAXT: ราคาพื้นฐานที่ 38 บาท

มองเป็นบวกหลังมีข่าวรัฐบาลจะดำเนินนโยบายดิจิตัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบางก่อน คาดประชาชนใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดย CPAXT ได้รับประโยชน์ทางอ้อมผ่านร้านค้าปลีกที่มาซื้อสินค้า ขณะที่บริษัท รายงานกำไรไตรมาส 2/67 ที่ 2.2 พันลบ. (+43.5%YoY, -12.3%QoQ)

  • BBL: ราคาพื้นฐาน 148 บาท

คาดว่าธนาคารขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากการที่กนง. คงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM – Net Interest Margin) จะสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ต่อ รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่า เรามองเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจช่วยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติให้กลับมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ (Big cap) อย่างกลุ่มธนาคาร

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 45.8 จุด ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (HCOB Service PMI Flash) ) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.9 จุด และปิดท้ายด้วยรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.27 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.7% YoY ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.8% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +2.7% YoY ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.6% YoY
- Advertisement -