PTG ส่งซิกครึ่งปีหลังผลงานผงาด ธุรกิจ Oil – Non-Oil หนุนพอร์ตลูกค้าขยายตัวเต็มเหนี่ยว ประกาศปรับเป้ายอดขายน้ำมันปี 67 โต 10-15%

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ส่งสัญญาณผลงานครึ่งปีหลังทะยานต่อ รับอานิสงส์ธุรกิจทุกภาคส่วนทั้ง Oil และ Non-Oil ขยายตัวตามการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน – การท่องเที่ยว  หนุนลูกค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น ซีอีโอ “พิทักษ์ รัชกิจประการปรับเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางปี 2567 เติบโตเพิ่มเป็น 10-15% เทียบกับ YoY จากเดิม 10-12%เทียบ YoY  จากอิมแพคของ PT Max Card รวมถึงการขยายสาขาและการปรับปรุงสถานีบริการ ให้ทันสมัยและครบครันมากขึ้น รวมถึงแรงหนุนจากอุปสงค์การใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/2567 ว่าบริษัทฯ ได้ปรับเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางปี 2567 เป็น 10-15% เทียบ YoY จากเดิมที่ 10-12% เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางของบริษัทฯ ยังคงสร้างการเติบโตที่สูงจากปัจจัยภายในของทางบริษัทฯ รวมถึงอุปสงค์การใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และคาดว่าจะขยายจำนวนสถานีบริการเป็น  2,251 สถานีบริการภายในปีนี้

สำหรับแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังของบริษัทฯ เชื่อว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเติบโตในธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT ที่ทำได้สูงตามเป้าอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน – การท่องเที่ยว  รวมถึงการขยาย Touchpoint ทั้งธุรกิจน้ำมัน และ Non-Oil  และกลยุทธ์ปรับปรุงสถานีเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้ลูกค้าขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2567) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ  468 ล้านบาท   เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 302.9% เทียบกับ  YoY ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 57,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7%  เทียบกับ YoY  ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้จำนวน 53,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.0 % เทียบกับ YoY เป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 11.9% เทียบกับ YoY เป็น 1,716  ล้านลิตร  ส่งผลทำให้ไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการPT เพิ่มขึ้นเป็น  22.3 %  เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่มีสัดส่วน 19.5%

ส่วนธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เพิ่มขึ้น 24.5% เทียบ YoY  เป็น 4,153 ล้านบาท  มีปัจจัยหลักมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้ 2,305 ล้านบาท เติบโต 13.1% เทียบ YoY เนื่องจากมีปริมาณการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจำนวน 174 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 12.4% เทียบ YoY   ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG โดยรวมยังคงมาจากกลุ่ม Auto LPG จากการดำเนินโครงการ Taxi Transform และ Auto Transform  ด้วยเป้าหมายในการสร้างความ อยู่ดี มีสุข ให้กับลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับมีการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus โดยบริษัทฯ ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 1 ในไตรมาส 2/2567 ที่ 29.8 % และมีจำนวนสถานีบริการ Auto LPG ที่จำนวน  246 สถานี ขณะที่กลุ่มครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9.8 % เทียบ YoY เป็น 37 ล้านลิตร ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ คาดการณ์การขยายจุดจำหน่าย Gas Shop และ Auto LPG เป็น738 จุด

สำหรับธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.2% เทียบ YoY เป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง  โดยในไตรมาส 2/2567  มีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งสิ้น  1,028 สาขา เพิ่มขึ้น 46.2%  นับเป็นการขยายสาขาแตะหลักพันเป็นครั้งแรก โดยมีการกลับมาซื้อซ้ำ ของลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus  ซึ่งปีนี้ทางบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยไว้ที่ 400 สาขา

ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทฯ ยังคงวางแผนขยายสาขาและTouchpoints อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าในปี 2567 บริษัทฯ วางเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็นจำนวน 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints โดยการขยายสาขาจำนวนหลัก ๆ มาจาก ธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs, สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT, และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น

- Advertisement -