คาด SET Index ยังคงพักฐาน แกว่งตัวในกรอบแคบ 1,355 – 1,375 จุด หลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องและส่งผลให้ Upside จำกัด
- สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อย (ดัชนี DJIA +0.02% S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ +0.16%) แม้ตลาดจะได้รับแรงสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มเทคฯ (+0.63%) และกลุ่มการเงิน (+0.48%) เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามรายงานผลประกอบการ 2Q24 ของ Nvidia ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลง (-0.93%) ตามราคาน้ำมัน (Brent -2.31%) เนื่องจากความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอในจีน ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด
- นอกจากนี้ แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 103.3 แต่อัตราการว่างงานเดือนก.ค. ที่ปรับตัวขึ้นสูงสู่ระดับ 4.3% ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อตลาดแรงงาน
- ตลาดยังคงติดตามดัชนี PCE สหรัฐฯ เดือนก.ค. และตัวเลข CPI ยูโรโซนเดือนส.ค. ในวันศุกร์นี้ (30 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของเฟด และ ECB
SET Index : เราคาดว่า SET Index ยังคงพักฐาน แกว่งตัวในกรอบแคบ 1,355 – 1,375 จุด หลังปรับตัวขึ้นมา ต่อเนื่องกัน และส่งผลให้ Upside จำกัด กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขการค้าไทยเดือนก.ค. ขยายตัวดีกว่าที่เราและตลาดคาดโดยการส่งออกขยายตัว 15.2% yoy ในขณะที่ การนำเข้าเติบโต 13% yoy และขาดดุลการค้า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เราคงคาดการณ์การส่งออกใน 2024F ไว้ที่ +3.5% เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการค้า และความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องใน 3Q24F
นอกจากนี้ แม้ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะกระตุ้นอุปสงค์ และเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกของไทย อย่างไรก็ตาม เราเห็นความไม่แน่นอนด้านนโยบายใน 2025F โดยเฉพาะหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง เนื่องจากนโยบายการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้า เราจึงคงคาดการณ์การส่งออกสินค้าใน 2025F ไว้ที่ +2.5% yoy
เราคาดว่าค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่ 34.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2024F และ 33.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2025F เนื่องจากเราคาดว่าเฟดจะปรับลด FFR ลง 75bp ในปี 2024F และ 150bp ในปี 2025F
สำหรับปัจจัยในประเทศ
ความคืบหน้าการจัดตั้งครม. ที่ตลาดยังคงติดตาม เนื่องจากส่งผลต่อการเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยล่าสุดพรรคเพื่อไทยมีมติในที่ประชุมไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพปชร.
ติดตามการให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติ และการนำเสนอข้อมูลการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ลงทุนสถาบันในงาน “Thailand Focus” วันที่ 28-30 ส.ค.
หุ้นแนะนำ
- STA : การประกาศตัวเลขส่งออกสินค้าไทยเดือนก.ค. ขยายตัวดีกว่าที่เราและตลาดคาด โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ +26.3% yoy ในขณะที่สินค้าที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ สินค้าเกษตร +9.5% yoy ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากยาง (+55.4%) เราเชื่อว่า STA ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารา จะเป็นหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวก (Take profit : 23.60 / Stop loss : 21.30)
- CPF : การส่งออกสินค้าเกษตรที่เติบโตขึ้น ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากข้าว (+15.9%) และอาหาร (+6.6%) โดยเราเชื่อว่า CPF ซึ่งเป็นธุรกิจส่งออกอาหารแช่แข็งจะได้รับ Sentiment บวก นอกจากนี้ CPF มีกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงกว่าประมาณการของเราใน 2Q24 เนื่องจาก GPM สูงกว่าคาด เรามองว่ากำไรปกติใน 3Q24 จะยิ่งแข็งแกร่งเพราะราคาสุกรในไทย เวียดนาม และจีนปรับเพิ่มขึ้น (Take profit : 28.25 / Stop loss : 23.20)
Daily Global Market | 28 สิงหาคม 2024
In News:
- ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones ปิดที่ระดับนิวไฮ ท่ามกลางการซื้อขายที่ระมัดระวัง นักลงทุนต่างจับตามองผลประกอบการของ Nvidia Corp. ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิป ซึ่งจะเผยผลในวันพุธ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.3 จากระดับ 101.9 เดือนก่อนหน้า และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 100.3 นอกจากนี้ ผู้บริโภคลดคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าสู่ระดับ 4.9% ต่ำสุดนับแต่มีนาคม 2020
- FED สาขาริชมอนด์เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวลงสู่ระดับ -19 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ -14 และจากระดับ -17 ของเดือนก่อนหน้า
- ราคาบ้านสหรัฐเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2% MoM ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และปรับขึ้น 5.4% YoY หลังจากพุ่งขึ้น 5.9% เดือนก่อนหน้า
- เศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวลง 0.1% เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ขณะที่ช่วง 1Q2024 GDP ของประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% QoQ
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวเยอรมันมีแนวโน้มลดลงจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย การลดตำแหน่งงาน และการล้มละลาย ส่งผลให้ความคาดหวังด้านรายได้ลดลง กดดันความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย GfK และ Nuremberg Institute for Market Decisions (NIM) ลดลงสู่ระดับ -22.0 จุดเดือนกันยายน จากที่มีการแก้ไขเล็กน้อย -18.6 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ -18.2
- ราคาผู้ผลิตสวีเดนประจำเดือนกรกฎาคมลดลงอย่างไม่คาดคิด 0.1% YoY ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ตรงข้ามกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่จะเพิ่มขึ้น 1.2% หากไม่รวมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ดัชนีเพิ่มขึ้น 0.8% หากพิจารณารายเดือน ราคาผู้ผลิตลดลง 1.4% ขณะที่ราคานำเข้าลดลง 2.2% ต่อปี ส่วนราคาส่งออกลดลง 1.7%
- แคนาดาจะจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีน 100% และประกาศเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากจีน ภาษีดังกล่าวใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่ส่งจากจีน รวมถึง Tesla Inc. ทั้งนี้ การนำเข้ารถยนต์จากจีนไปยังท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดอย่างแวนคูเวอร์เพิ่มขึ้น 460% YoY สู่ระดับ 44,356 ในปี 2023 เมื่อ Tesla เริ่มจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในเซี่ยงไฮ้ไปยังแคนาดา
- ผลกำไรทางอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วขึ้นในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก กำไรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 4.1% จากปีก่อนหน้า หลังจากเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนมิถุนายน สำหรับช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม กำไรขยายตัวเร็วขึ้นเล็กน้อยที่ 3.6% เทียบกับ 3.5% ในครึ่งปีแรก ทำให้เกิดความหวังในการปรับปรุงโมเมนตัมท่ามกลางผลผลิตของโรงงานที่ซบเซา การส่งออก ราคา และจำนวนสินเชื่อของธนาคารในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
Stock Movement:
- หุ้น Apple Inc. (AAPL ND) ขยับบวก 0.37% ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีประกาศว่า CFO นาย Luca Maestri จะลาออกจากบทบาทของเขาในช่วงเริ่มต้นของปี 2025
- หุ้น Paramount Global (PARA ND) ดิ่งลง 7.15% หลังผู้บริหารสื่อ นาย Edgar Bronfman Jr. ถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อควบคุมกลุ่มบริษัทสื่อ เปิดทางสำหรับการควบรวม Skydance-Paramount ให้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการประมูล
- หุ้น Eli Lilly and Co. (LLY NYSE) ขยับขึ้น 0.45% ยักษ์ใหญ่ด้านยาประกาศว่า ได้เปิดตัวรูปแบบใหม่ของยาลดน้ำหนัก Zepbound ในราคาประมาณครึ่งหนึ่งของราคารายเดือนปกติ
- หุ้น Nvidia Corp. (NVDA ND) เพิ่มขึ้น 1.46% ก่อนผลประกอบการของยักษ์ใหญ่ด้านชิปจะเผยในวันพุธ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงรายได้รายไตรมาสเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า
- หุ้น Netflix Inc. (NFLX ND) เพิ่มขึ้น 1.06% หลังจาก Evercore ISI เพิ่มเป้าหมายราคาผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง อ้างถึงผลสำรวจที่แข็งแกร่งและแนวโน้มที่สดใสสำหรับบริษัท
- หุ้น Boeing Co. (BA NYSE) ร่วงลง 0.25% แม้บริษัทคาดว่า จีนจะต้องการเครื่องบินใหม่ 8,830 ลำภายในปี 2043 ในขณะที่อุตสาหกรรมการบินของประเทศขยายตัวและปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทางทางอากาศของผู้โดยสารและขนส่งสินค้า
- หุ้น Bunzl Plc. (BNZL LON) พุ่งขึ้น 9.56% บริษัทรายงานกำไรก่อนหักภาษีช่วง 1H2024 ที่ปรับลดลง 12% โดยกำไรต่อหุ้นพื้นฐานลดลง 16.4% แม้กำไรและกำไรที่ปรับปรุงแล้วจะเติบโตเล็กน้อยก็ตาม บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้น 10.4% และการซื้อหุ้นคืน GBP 250 m. ขณะที่ปรับคำแนะนำกำไรปีงบประมาณ 2024 จากอัตรากำไรขั้นต้นและการเข้าซื้อกิจการดีขึ้น
- หุ้น Associated British Foods Plc. (ABF LON) ปรับตัวลดลง 0.60% หลังจากที่ Deutsche Bank ตัดลดเรตติ้งหุ้นสู่ระดับ Sell จาก Buy
- หุ้น Daimler Truck Holding AG (DTG ETR) ปรับตัวลง 1.19% หลังจากที่ Goldman Sachs ปรับลดเรตติ้งหุ้นลงสู่ Neutral จาก Buy
- หุ้น Flughafen Zuerich AG (FHZN SWX) ร่วงลง 3.13% หลังจากที่ผู้ให้บริการสายการบินสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เผยอัตรากำไรครึ่งปีแรกที่ไม่เป็นไปตามคาด
- Pinduoduo เตือนว่า การเติบโตรายได้ที่สูงนั้นไม่ยั่งยืน และไม่มีการซื้อหุ้นคืนหรือจ่ายเงินปันผล หุ้นจดทะเบียนใน US ร่วงลง 28.51% บริษัทอีคอมเมิร์ซที่จดทะเบียนในฮ่องกงร่วงลง Alibaba Group Holding Ltd. (9988 HK, -4.02%) และ JD. com Inc. (9618 HK, -3.69%) ต่างลบราว 4%
- หุ้น Longfor Group Holdings Ltd. (0960 HK) ร่วงลง 1.71% HSBC Global Research ลดราคาเป้าหมายลง 31.8% สู่ระดับ HKD 15 แต่ยังคงเรตติ้ง Buy โดยคาดว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปสู่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาว แม้ว่าผลกำไรที่คาดการณ์ไว้จะลดลง YoY ช่วง 1H2024
- หุ้น Trip. com Group Ltd. (9961 HK) ทะยานขึ้น 9.05% บริษัทเผยรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ 2Q เพิ่มขึ้น 14% YoY สู่ระดับ Rmb 12.8 bn. สอดคล้องคาดการณ์ของตลาด กำไรที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ Rmb 4.985 bn. หรือเพิ่มขึ้น 45% YoY ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ Rmb 3.57 bn.
- หุ้น Coles Group Ltd. (COL ASX) ปรับบวก 1.68% ร้านขายของชำออสเตรเลียรายงานผลกำไรประจำปีเกินคาด ได้แรงหนุนจากยอดขายซูเปอร์มาร์เก็ตที่แข็งแกร่งและการควบคุมสินค้าคงคลังที่ดีขึ้น บริษัทเผยว่า กำไรสุทธิหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 2.1% จากการดำเนินงานต่อเนื่องสู่ระดับ AUD 1.13 bn. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน สูงกว่าคาดการณ์ของ Visible Alpha ที่ AUD 1.08 bn.
- หุ้น BHP Group Ltd. (BHP ASX) ขยับบวก 1.25% บริษัทกล่าวว่า จะมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจทองแดงผ่านโครงการที่มีอยู่และที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังล้มเหลวการเข้าซื้อ Anglo American Plc. (AAL LON, +3.09%) บริษัทขุดแร่รายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังผลักดันอย่างหนักในการขยายทองแดง เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงพลังงานและแนวโน้มที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้สร้างรายได้หลักอย่างสินแร่เหล็ก ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัว
- หุ้น Lendlease Group (LLC ASX, -0.60%) และ Warbug Pincus กล่าวว่า กิจการร่วมค้าของพวกเขาได้ซื้อทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ในราคา SGD 1.6 bn. พอร์ตโฟลิโอที่ซื้อมานี้ประกอบด้วยอาคารสำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาควิทยาศาสตร์ชีวภาพ
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard