บล.พาย:
Sector Update: Automotive เป้าผลิตใหม่ 1.7 ล้านคัน ต้องลุ้นอีก (NEUTRAL)
TOP PICK: –
ส.อ.ท. รายงานตัวเลขยานยนต์ประจำเดือน ก.ค. เทียบกับปีก่อนกลับมาลดลงหนักในทุกๆกลุ่ม โดยเฉพาะตลาดส่งออกที่ลดลง ถึง 23%YoY ส่วนเทียบกับเดือน มิ.ย. มีเพียงการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนปริมาณการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 522 คันคิดเป็นสัดส่วน 1.1% ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง รวมแล้วในช่วง 7M24 มีการผลิตรถยนต์ 886,069 คัน (-17%YoY) คิดเป็นสัดส่วน 52% ของเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งปีที่สภาอุตสาหกรรมตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านคัน ทำให้หากจะให้เป็นไปตามเป้าที่ทางสภา อุตสาหกรรมตั้งไว้ยอดการผลิตในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีจะต้องมีการผลิตถึง 160,000 คัน/เดือน ทำให้เรามองว่าเป้าการผลิตใหม่ยังมีความเสี่ยงที่จะไปถึง โดยเราจะต้องรอดูภาพรวมการผลิตช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. อีกครั้งว่าจะเป็นเท่าใด ทั้งนี้ระยะยาวเรายังมองว่าไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อยู่ ซึ่งหากภาพรวมเศรษฐกิจกลับสู่ระดับปกติจะทำให้การผลิตรถยนต์กลับมาเติบโตได้ ดังนั้น เราจึงคงน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ “เท่าตลาด” เช่นเดิม
ยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค. 24 อยู่ที่ 124,829 คัน (-17%YoY, +7%MoM)
- สภาอุตสาหกรรมรายงานตัวเลขกลุ่มยานยนต์เดือน ก.ค. 24 มีการผลิตรถยนต์ 124,829 คัน (-17%YoY, +7%MoM) การส่งออก 83,527 คัน (-23%YoY, -6%MoM) และยอดขายรถยนต์ในประเทศ 46,934 คัน (-20%YoY, -2%MoM)
- เทียบกับ ก.ค. 23 ตัวเลขการส่งออกลดลงมากที่สุดถึง 23% กลับมาลดลงหลังจากเติบโตได้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคาดว่าเกิดจากสงครามที่ตะวันออกกลาง ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศหดตัวต่อเนื่องอีก 20%YoY) นำโดยกลุ่มรถกระบะที่ยอดขายลดลง 35%YoY เทียบกับเดือน มิ.ย. 24 ยอดส่งออกและยอดขายยังคงหดตัว แต่ในส่วนการผลิตรถยนต์กลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง
- ยอดจดทะเบียนรถ EV เดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 5,786 คัน (+13%YoY, +0.2%MoM) ขณะที่ยอดขายมีจำนวน 6,835 คัน (+12%YoY, +15%MoM) ส่วนการผลิตรถ EV ในประเทศ (นับเฉพาะผลิตในกลุ่ม BEV) มีจำนวน 522 คัน (-35%MoM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1.1% ของการผลิตรถยนต์นั่งในประเทศ หรือ 0.4% ของการผลิตทั้งหมด
เป้าใหม่ที่ 1.7 ล้านคัน (-8%YoY) ยังต้องลุ้น
- ยอดผลิตในช่วง 7M24 อยู่ที่ 886,069 คัน (-17%YoY) คิดเป็นสัดส่วน 52% ของเป้าการผลิตใหม่ที่ 1.7 ล้านคันของสภาอุตสาหกรรมคาดไว้ โดยหากจะให้เป็นไปตามเป้าดังกล่าว การผลิตรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีจะต้องสูงถึงระดับ 160,000 คัน/เดือน ซึ่งเกิดขึ้นล่าสุดคือเดือน พ.ย. 23 ทำให้เรามองว่าการผลิตรวมในปีนี้เริ่มมีความเสี่ยงที่อาจจะไปไม่ถึงเป้าที่สภาอุตสาหกรรมวางไว้ เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น ทำให้กระทบกับตลาดรถยนต์ในประเทศได้ รวมถึงการผลิตรถ EV ที่เดิมคาดว่าจะเติบโตขึ้นแต่ตัวเลขในเดือน ก.ค. กลับออกมาลดลงจากเดือนก่อนหน้า ทำให้อาจจะเข้ามาช่วยได้ไม่มากอย่าง ที่คาดโดยเราจะรอดูตัวเลขในเดือน ส.ค. และ ก.ย. อีกครั้งว่าจะเป็นเท่าใด
- รวมแล้วระยะสั้นกลุ่มยานยนต์ยังคงมีความกดดันจากตัวเลขการผลิตที่ยังไม่ดีนัก แต่ระยะยาวจากการที่ไทยยังคงเป็นเป็นฐานการผลิตรถยนต์ ทั้งกลุ่มรถพลังงานเดิม (ICE) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (HEV,EV) ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นได้ เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มยานยนต์ “เท่าตลาด” เช่นเดิม ส่วนหุ้นรายตัวแนะนำให้เลือกลงทุนเพื่อเน้นรับเงินปันผลเป็นผลัก
