DITP มอบประกาศฯ เชิดชูเกียรติผู้ได้รับตรา T Mark ประจำปี 2567 พร้อมตั้งเป้ายกระดับจากตราสัญลักษณ์ของความไว้วางใจสู่ตราสัญลักษณ์แบรนด์ประเทศไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T Mark) ประจำปี 2567 เพื่อเชิดชูเกียรติและสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้ประกอบการที่รักษาคุณภาพมาตรฐานของการผลิต มีการใช้แรงงานที่เป็นธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตอกย้ำความเชื่อมั่นสินค้าและบริการไทยในเวทีการค้าโลก
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ดำเนินโครงการส่งเสริมตราสัญลักษณ์ T Mark มาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 โดยมีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในคุณภาพสินค้าและบริการของไทยในสายตาของผู้นำเข้าในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล สร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการของไทยในเวทีการค้าโลก กรมจึงได้ริเริ่มตราสัญลักษณ์ T Mark ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการแบรนด์ไทยในต่างประเทศ
“ปัจจุบันตราสัญลักษณ์ T Mark ไม่เพียงสร้างการจดจำและการรับรู้ถึงความเป็นสินค้าและบริการไทยที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ยังสะท้อนถึงการดำเนินงานของผู้ประกอบการไทยที่ใส่ในการดำเนินธุรกิจ มีการบริหารจัดการที่ดีทั้งด้านการผลิต การใช้แรงงานที่เป็นธรรม การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสังคมด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs : Sustainable Development Goals) ที่ต่างประเทศให้ความสำคัญ โครงการส่งเสริมตราสัญลักษณ์ T Mark จึงเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของการสร้างแบรนด์ประเทศไทยในด้านการค้าและบริการ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถทางการแข่งขันที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก โดยในระยะต่อไป กรมฯ มีแผนที่จะประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ตราสัญลักษณ์ T Mark เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีความชื่นชอบและยอมรับในคุณภาพของสินค้าและบริการไทย นอกจากนี้ กรมยังมีแผนจะยกระดับการสร้างภาพลักษณ์ตราสัญลักษณ์ T Mark สู่การเป็นตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็น “แบรนด์ประเทศไทย” อีกด้วย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ กล่าวเสริม
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผ่านมามีผู้ประกอบการที่เคยได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark รวมทั้งสิ้น 886 บริษัท 1,117 แบรนด์ และ 6,996 รายการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่คงสถานะเป็นสมาชิก T Mark มีจำนวน 280บริษัท เนื่องจากต้องมีการต่ออายุสมาชิกทุก 3 ปี สำหรับในปี 2567 นี้ มีผู้ประกอบการสมัครขอรับตรา T Mark ทั้งสิ้น 305 บริษัท ผ่านการพิจารณารวม 99 บริษัท แบ่งเป็น กลุ่มผู้สมัครรายใหม่ 30 บริษัท และกลุ่มที่ขอต่ออายุ 69 บริษัท รวมทั้งสิ้น 54 แบรนด์ 486 รายการ โดยในปีนี้ กรมได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ T Mark ตลอดจนสินค้าและบริการของสมาชิก T Mark ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดต่างประเทศ อาทิ การจัดนิทรรศการแสดงสินค้า T Mark ภายในงานแสดงสินค้านานาชาติที่กรมจัดในประเทศไทย จำนวน 3 งาน ประกอบด้วย งาน STYLE งาน THAIFEX และงาน RHVAC และการประชาสัมพันธ์ตรา T Mark ในต่างประเทศ ได้แก่ กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกัมพูชา ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ กรมยังได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า T Mark ในต่างประเทศ เพื่อคุ้มครองการใช้ตราสัญลักษณ์ T Mark จำนวน 58 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 9ประเทศ (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม) เอเปค 14 ประเทศ (รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ชิลี ปาปัวนิวกินี เปรู สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) ตะวันออกกลาง 5 ประเทศ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ตุรกี อิสราเอล อิหร่าน และซาอุดิอาระเบีย) อินเดีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และสหภาพยุโรป 28 ประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้นำเข้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ รวมถึงป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้าไทยด้วย
สำหรับผู้สนใจขอรับตราสัญลักษณ์ T Mark ไปใช้ สามารถศึกษารายละเอียดการสมัครและยื่นเอกสารการสมัครผ่านระบบออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thailandtrustmark.comโดยกรมมีกำหนดรอบพิจารณาคัดเลือกจำนวน 3 ครั้งต่อปี ดังนี้
รอบที่ 1 กำหนดพิจารณาเดือนธันวาคม เปิดรับสมัคร ตุลาคม-พฤศจิกายน
รอบที่ 2 กำหนดพิจารณาเดือนเมษายน เปิดรับสมัคร กุมภาพันธ์-มีนาคม
รอบที่ 3 กำหนดพิจารณาเดือนสิงหาคม เปิดรับสมัคร มิถุนายน-กรกฎาคม
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มงานส่งเสริมแบรนด์ประเทศด้านการค้า สำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2507 8271