หวังมาตรการและโครงการรัฐ / 1,430-1,450

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET ยังมีแรงขึ้นต่อ: แรงหนุนจากมาตรการ/ โครงการภาครัฐ และ Fund flow หากแต่ถูกจำกัดบ้าง จากการรอติดตามตัวเลขศก. สหรัฐฯ และการพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำของไทย ทั้งนี้ คาดแรงหนุนมาจากการประชุมครม. ในวันนี้ ซึ่งจะมีวาระสำคัญคือก.คลังจะเสนอครม.พิจารณาเห็นชอบการจ่ายเงิน 1 หมื่นบาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ตามโครงการ Digital Wallet เฟสแรก และหลังจากนั้นจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับความชัดเจนของโครงการทั้งหมด ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง และหากมีความชัดเจนของเฟสที่ 2 ร่วมด้วย ทางฝ่ายมองจะยิ่งทำให้หุ้นในกลุ่มข้างต้นมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก ขณะที่หุ้นในกลุ่ม รับเหมาย คาดได้ Sentiment หนุนจากการที่ก.คมนาคมเตรียมเสนอครม.รับทราบโครงการพร้อมดำเนินการทันที และหากครม.เห็นชอบจะทยอยเสนอเป็นวาระเพื่อพิจารณาโดย 9 เรื่องสำคัญที่ก.คมนาคมจะเสนอครม.แบ่งเป็น 3 โครงการลงทุนวงเงินรวมกว่า 1 แสนลบ. ได้แก่โครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 5 และ 9 และโครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง นอกจากนี้ สกุลเงินท้องถิ่นที่ยังคงแข็งค่าเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ คาดเป็นแรงหนุนต่อหุ้นที่มีรายจ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ และเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ Fund flow สอดรับกับการที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 8 วันทำการติดต่อกันใน SET Index อย่างไรก็ตาม คาดทางขึ้นยังจำกัดอยู่บ้าง เนื่องจากนักลงทุน ยังรอติดตาม 1) การเผยตัวเลขศก.สหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มภาวะศก. โดยตลาดคาดยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯเดือนส.ค.67 ที่ -0.2% m-m และ +0.1% m-m ซึ่งต่างพลิกจากเดือนก.ค.67 ที่ +1.0% m-m และ -0.6% m-m ตามลำดับ และ 2) การประชุมไตรภาคีในวันที่ 20 ก.ย.67 เพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท และมาตรการช่วยเหลือนายจ้าง ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและต้นทุนของผู้ประกอบการในประเทศ

กลยุทธ์การลงทุน : 1) วายุภักษ์: AP,BDMS, CPALL, SABINA, SC, SIRI, 2) งบและนโยบายภาครัฐฯ: AEONTS, BJC, CK, CPAXT, KTB, KTC, ROJNA, SAWAD, STEC, TIDLOR 3) บาทแข็ง: AAV, BGRIM, CRC, GPSC, GUNKUL และ 4) Selective: BANPU, PRM, SISB

ปัจจัยบวก

  • กองทุนวายภักษ์หนึ่ง เปิดจองวันแรกคึกคัก ทั้งนี้ ตลท.และก.คลังเล็งแบ่งสัดส่วนจากนักลงทุนสถาบันมาให้รายย่อยเพิ่ม หากยอดจองล้น
  • รมว.พาณิชย์เผยเตรียมนัดหารือกับผู้ว่าการธปท.เร็วๆ นี้ โดยมี 3 เรื่องที่จะเสนอให้ธปท.ช่วยดูแลศก.และภาคการส่งออก ได้แก่ 1) การลดดอกเบี้ยเนื่องจากขณะนี้อัตราเงินเฟ้อลดลง และเฟดก็เตรียมลดดอกเบี้ย 2) ดูแลเงินบาทที่แข็งค่าเร็วมาอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ และ 3) การเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบศก. เพราะปัจจุบัน SME ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง
  • ก.คลังเผยสคร.อยู่ระหว่างการหารือกับก.คมนาคม ถึงแนวคิดจัดตั้ง IFF เพื่อซื้อสัมปทานการบริหารรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนคืนกลับมา และกำหนดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะมีการนัดหารือกันเพื่อหาแนวทางการผลักดันต่อไป ทั้งนี้ ทางฝ่ายมองเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค
  • U.S. News & World Report เผยผลการจัดอันดับประเทศที่เหมาะใช้ชีวิตหลังเกษียณมากที่สุด รายงานระบุว่าไทยติดอันดับที่ 17 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 18 ในรายงานเมื่อปีที่แล้ว รั้งอันดับสูงสุดในอาเซียนและเอเชีย

ปัจจัยลบ

  • Goldman Sachs และ Citigroup ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของศก.จีนในปี 67 ลงสู่ระดับ 4.7% หลังจากจีนเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนส.ค.67 ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าศก.จีนในปี 67 จะขยายตัวที่ระดับ 4.9% ขณะที่ Citigroup คาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 4.8%
  • S&PGlobal Ratings ระบุว่าการอุปโภคบริโภคที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของจีนมีสาเหตุมาจากการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับสถานะการเงินและปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นจีน ทั้งนี้ S&P Global Ratings คาดการณ์ว่านับตั้งแต่เดือนมิ.ย.67 สถานะการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นจีนต้องใช้เวลา 3-5 ปีจึงจะฟื้นตัวสู่ระดับที่แข็งแกร่ง
  • ปีเตอร์ คาซิเมียร์ สมาชิกสภากรรมการของ ECB เผย ECB ควรรอจนถึงเดือนธ.ค.67 ก่อนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า ECB ไม่ได้ทำผิดพลาดในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วเกินไป

PICKS OF THE DAY

CK BUY

  • เป้าหมาย 20.50 / 21.50 แนวรับ 19.70
  • นำโครงการเข้า ครม.ต่อเนื่อง: วันนี้( 17 ก.ย. 67) คมนาคมเตรียมเสนอโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าทั้งหมด 3 โครงการเข้า ครม. รวมกว่า 1 แสนลบ. และปัจจุบันคมนาคมยังมีความพร้อมที่จะนำโครงการเร่งด่วนหลายโครงการเข้า ครม. หลักๆเป็นโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง และรถไฟความเร้วสูงไทย-จีนระยะที่2 รวมกว่า 6 แสนลบ. คาดว่าน่าจะยังจะได้เห็นโครงการรัฐฯเข้า ครม. อย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มรับเหมา
  • คาด 3Q67 กำไรสูงสุดในปี: มองว่า 3Q67 เป็นช่วงที่ทำกำไรได้สูงสุดในปี รายได้ก่อสร้างอาจอ่อนตัว q-q เล็กน้อยจากติดช่วงฤดูฝน แต่จะได้ปันผลจาก TTW และมีส่วนแบ่งกำไรที่เติบโตขึ้น เป็นช่วง high season ของ BEM และ CKP โดยเฉพาะ BEM ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ของส่วนแบ่งกำไร

SISB BUY

  • เป้าหมาย 36.00 / 37.00 แนวรับ 32.50
  • เปิดเทอมรับนักเรียนใหม่: เปิดภาคการศึกษาใหม่ ส.ค. 67 จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นกว่า +223 คน มาอยู่ที่ 4,580 คน ใกล้เคียงเป้าหมายปีนี้ที่ตั้งไว้ 4,600 คน ซึ่งทางฝ่ายคาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้
  • โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษ : บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรจากประเทศมาเลเซียในโครงการพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนที่ทักษะทางด้านภาษายังไม่ผ่านเกณฑ์ ที่น่าจะเริ่มต้นช่วง 4Q67 ที่หากโครงการนี้สำเร็จจะช่วยแก้ปัญหานักเรียนจีนถูกให้ออก และเพิ่มศักยภาพการรับนักเรียนเข้ามาเพิ่มมากยิ่งขึ้น
  • กำไร 3Q67 ปรับตัวเพิ่ม: จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น นักเรียนเลื่อนระดับชั้น และการปรับขึ้นค่าเทอม 5% คาดว่าจะดันกำไร 3Q67 ฟื้นตัวมาอยู่ที่ 221 ล้านบาท (+72% Y-Y และ +5% Q-Q)

 

- Advertisement -