วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”
แนวรับ 1,430 / 1,423 แนวต้าน 1,444 / 1,450
คาดตลาดจะให้ความสนใจไปที่การประชุม FOMC ในคืนนี้ คาด FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่ำ 0.25% ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ครม.อนุมัติโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทกระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเงินตั้งแต่ปลาย 3Q’67 จิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
Our View? “อย่างไรก็ตามแต่”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,430 / 1,423 และแนวต้านที่บริเวณ 1,444 / 1,450 คาดวันนี้ตลาดจะติดตามการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อย่างใกล้ชิดโดยเรายังคงมุมมอง FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% อย่างไรก็ตามหาก FED ปรับอัตราดอกเบี้ยลงที่ 0.50% แม้จะเป็นบวกในแง่ของแนวโน้มต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวเร็วมากกว่าคาด แต่เรามองเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสในการที่เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสชะลอตัวลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้าเช่นกัน ส่งผลให้ Upside ระยะกลางค่อนข้างจำกัด โดยเราเชื่อว่าหากทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องต้องประกอบการ 1. FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปพร้อมกับ 2. เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาพ Soft Landing ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง เรานี้เรายังคงมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกของ FED สะท้อนถึงการจบรอบขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED เรามองเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะถัดไป
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวขึ้นต่อปิดที่ระดับ 71.19 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.10 ดอลลาร์ (+1.57%) คาดยังได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED เป็นปัจจัยทางอ้อมช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ อีกทั้งยังกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าส่งผลกระทบเชิงบวกต่อราคาน้ำมันดิบ ขณะที่เรายังคงมุมมองการปรับลดอุปสงค์น้ำมันของ OPEC เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงแนวโน้มของ OPEC+ ในการชะลอแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทดแทนส่วนที่หายไปของลิเบีย รวมทั้งความตึงเครียดในตะวันออกกลางคาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดับ-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ขึ้นได้
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเมื่อวานนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ ครม. อนุมัติโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ในกลุ่มบัตรสวัสดิการรัฐไม่เกิน 12.4 ล้านราย และผู้พิการ 2.15 ล้านราย วันที่ 25 ก.ย. นี้ วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท โดยสามารถใช้ได้ไม่จำกัดประเภทร้านค้า เราคาดจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเงินในเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ปลาย 3Q’67 รวมทั้งการเร่งออกกองทุนวายุกักษ์วงเงิน 1-15 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักลงทุนได้ดีคาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Big Cap. (ธนาคาร, ค้าปลีก และโรงไฟฟ้า) อีกทั้งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการออกนโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านงบประมาณปี 67-68 มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
อย่างไรก็ตามเรายังคงแนะนำติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ-กลางตอนบนของประเทศไทยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ คาดมีโอกาสอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GDP ของไทยในช่วง 3Q’67 รวมทั้ง EPS ของตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด อาทิ (HMPRO, GLOBAL, DOHOME, DCC และ DRT) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคและการบริจาค (CPALL และ CPAXT)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “EGCO”
- นักวิเคราะห์ของเราคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2H’67 จะเติบโตโดดเด่นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ไต้หวัน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน APEX ในสหรัฐ และรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้ากลุ่ม Compass รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาว
- ทางเทคนิค ภาพรายวันราคาอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นยืนเหนือ EMA10 วันได้ต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค
MACD, RSI และ SSTO ชะลอกำลังลงบ้าง ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างพักฐานได้บ้าง - แนะนำ “ย่อชื้อ”
- แนวรับ 121.00 / 119.50 Target 127.50 / 130.00 Stop <119.00