KS Daily View 19.09.2024 >>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบหลังจากผันผวนในช่วงทราบผลการประชุม FOMC โดย S&P500 ขึ้นทำ All Time High ได้ระหว่างวันก่อนร่วงลงมา คาด SET วันนี้ Sideway มองกรอบ 1,415 – 1,445 แนะนำ AAV, GPSC

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง Dow Jones -0.25%, S&P500 -0.29%, Nasdaq Composite -0.31% และ Russell 2000 +0.04% ภาพรวมของตลาดมีการปรับตัวขึ้นในช่วง 1.00 น. ที่มีผลการประชุม FOMC ว่ามีการปรับลดดอกเบี้ยลง 50 bps โดย S&P500 ได้ขึ้นทำ All Time High ในระหว่างวัน อย่างไรก็ตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวล ที่เตือนว่าไม่ควรคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยด้วย Size ที่ใหญ่แบบต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้น 6 bps มาที่ระดับ 3.7% และตลาดหุ้นปรับตัวย่อลงมาปิดลบในช่วงท้าย

SET Index ปิดที่ 1,435.77 จุด (-0.06%) ภาพยังเป็นการ Sideway ต่อเนื่อง แม้จะขึ้นทำ New High ได้ในระหว่างวัน โดยกลุ่ม Electronic, Healthcare, REITs และหุ้นขนาดกลางเล็กปรับตัวขึ้นได้ดี ในขณะที่กลุ่มค้าปลีกและขนส่งกดดันตลาด วันนี้คาด SET มีโอกาสพักฐานจาก Sentiment ที่ค่อนข้างผสมผสานจากการประชุม FOMC มองกรอบที่ 1,415 – 1,445 แนะนำหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว AAV และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง GPSC

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps จากระดับ 5.25-5.5% มาที่ 4.75-5.0% โดยมีมติที่ 11 ต่อ 1 โดยผู้ว่าการเฟด มิเชล โบว์แมน คัดค้านและเสนอให้ลดน้อยกว่านี้ ทั้งนี้เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ภายในสิ้นปีนี้ และ 1% ในปี 2025 และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการว่างงานปี 2024 ขึ้นจาก 4% เป็น 4.4% และปี 2025 จาก 4.2% เป็น 4.4% เจอโรม พาวเวลกล่าวว่า อย่ารีบสรุปว่าจะมีการลดดอกเบี้ยขนาดใหญ่ครั้งต่อไป และระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติไม่ใช่การแก้ปัญหาฉุกเฉิน
  • อังกฤษรายงาน CPI เพิ่มขึ้น 2.2% YoY ในขณะที่ Core CPI เพิ่มขึ้น 3.6% YoY ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดทั้งคู่ หลักๆมาจากค่าโดยสารเครื่องบินที่ปรับตัวขึ้นราว 22.2% MoM โดยการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะมีขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ซึ่งตลาดคาดว่าน่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5%
  • การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม 2567 เพิ่มขึ้น 5.6% YoY ชะลอตัวลงจาก 10.2% YoY ในเดือนกรกฎาคมและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 10.6% YoY โดยการส่งออกรถยนต์ลดลง 9.9% YoY ขณะที่การส่งออกอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 55.2% YoY การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่การส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 5.2%
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps สู่ระดับ 6% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ก่อนการประชุมของเฟด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่าแม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ GDP ปีนี้ที่ 4.7% – 5.5% แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังต้องการการกระตุ้น
  • ผลสำรวจล่าสุดของ CNBC Fed Survey เผยว่าเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2024 ที่คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีมากกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ โดย 48% ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าแฮร์ริสจะชนะ เทียบกับ 41% ที่เชื่อว่าทรัมป์จะชนะ ซึ่งแตกต่างจากผลสำรวจในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม 56% ของผู้ตอบแบบสำรวจยังเชื่อว่าการดำรงตำแหน่งของทรัมป์จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นมากกว่าแฮร์ริส

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • AAV: ราคาพื้นฐาน 3.22 บาท

แนวโน้มผลประกอบการของ AAV มีทิศทางที่ค่อนข้างดี โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวและราคาตั๋ว รวมถึงการขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลดีต่อโครงสร้างต้นทุนของบริษัท ทั้งในด้านค่าใช้จ่ายน้ำมัน ค่าเช่าเครื่องบิน และค่าซ่อมบำรุง ประกอบกับสภาพการแข่งขันในตลาดที่มีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการพิจารณารื้อฟื้นโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้บริษัทมีโอกาสสร้างผลกำไรที่แข็งแกร่งในช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง จึงแนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 3.22 บาท

  • GPSC: ราคาพื้นฐาน 55 บาท

แนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง การปรับโครงสร้างสัญญาขายไฟฟ้าที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่า Ft แนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นช่วยลดภาระหนี้ต่างประเทศ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกจาก Bond Yield ที่ปรับตัวลง จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อคืนนี้ แนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 55 บาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง (Existing home sale) เดือน ส.ค. โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.90 ล้านหลังปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.95 ล้านหลังและรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.30 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ส.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +3.00% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.80% YoY และ เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (Japan Core CPI)  ตลาดคาดการณ์ที่ +2.00% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +1.90% YoY ต่อด้วยผลการประชุมดอกเบี้ยนโยบายของ BoJ เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 0.25%
- Advertisement -