บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index  ปิดที่ 1447.9 จุด -3.79 (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 5.05 หมื่นล้านบาท ไม่มีปัจจัยลบ/บวกอะไรใหม่ หลักรอการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ และรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ช่วงปลายสัปดาห์      โดย Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีคือ กลุ่มธนาคาร KTB, BBL, TTB  กลุ่มประกันชีวิต TLI   กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์  DELTA  กลุ่มค้าปลีก CPALL, HMPRO ฯลฯ  กลุ่มที่กดดัชนีคือ  กลุ่มขนส่ง AOT, กลุ่มการเงิน KTC  กลุ่ม ICT(ADVANC) ฯลฯ

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

  • CPALL  +0.77% HMPRO +1.92% 

หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้นมีแรงหนุน จากเงินอุดหนุน 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง+ผู้พิการเริ่มเข้า 25 ก.ย.  โดย CPALL ผสาน ยอดจองกองทุนวายุภักษ์เด่น และคาดกระแส Fund Flows ต่างชาติหนุนตลาดหุ้นอาเซียน+ไทยต่อเนื่อง มอง CPALL อยู่ในหุ้นกลุ่มเด่น คือ Big Cap อิงเศรษฐกิจภายใน (Domestic) และเป็นเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์+กระแสเงินทุนต่างชาติ ที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก   ยังแนะนำซื้อ  CPALL (TP25F-84)

  • NSL +1.4% 

เช้าวันนี้ NSL ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการตั้งใจเข้าไปซื้อ 2 กิจการ เกี่ยวกับน้ำมะพร้าวและข้าวโพดอ่อน คือ กิจการ NB และ PNF     การเข้าซื้อ NB คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1Q25  KSS มีมุมมองบวกต่อการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว โดยการซื้อกิจการมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่จะโตผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรกับในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายเข้าไปในโมเดิร์นเทรดที่ทาง NSL รู้จักดีและมีความเชี่ยวชาญ    อย่างไรก็ดี เราคาดว่าการร่วมมือเป็นพันธมิตรใหม่ๆ ต้องใช้เวลา และอาจไม่ได้มีนัยสำคัญกับรายได้และกำไรใน 1-2 ปีข้างหน้าคงราคาเป้าหมาย 35 บาท

  • BDMS +1.64% 

ปรับขึ้นโดยคาดกำไร 3Q24F จะออกมาดี คาดกำไรสุทธิ 4,400 ลบ (+13%y-y +32%q-q) มีปัจจัยบวก 1) รายได้ รพ (+11%y-y +14%q-q) เติบโตตามการใช้บริการเพิ่มขึ้น 2) คาดมี Economies of scale ของการใช้บริการเพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้ง 3) คาดอัตราภาษีลดลงจากสิทธิประโยชน์ BOI หากกำไรสุทธิ 3Q24F เป็นไปตามเราคาด จขณะที่งวด 4Q24 จะมีความต่อเนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และ BDMS ถือเป็นหุ้นที่มีความมั่นคง เติบโตสม่ำเสมอ น้ำหนักใน SETESG สูง 4.3% ขณะที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์เดิมน้อย 0.89% เพิ่มโอกาสที่จะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาหนุน

TOP +1%  

กลุ่มโรงกลั่นค่อนข้าง Laggard จากตลาดจึงดึงดูดให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร ผสานมีปัจจัยบวกจากจีนประกาศโควต้าส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป batch3 ราว 8 ล้านตัน ออกมาน้อยกว่าข่าวก่อนหน้าที่ราว 15 ล้านตัน ส่งให้ภาพรวมปี 2024 โควต้าส่งออกน้ำมันฯจีนใกล้เคียง 2023 ซึ่ง KSS คาดจะลดแรงกดดันต่อค่าการกลั่นในภูมิภาค    ระยะสั้นเห็นโมเมนตัมการปรับขึ้น ในส่วนค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.ย.2024)  +70%d-d อยู่ที่ 3.24 ดอลลาร์/บาร์เรล  (VS. ค่าเฉลี่ย 3Q24 ที่ 3.73 $)    ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น  แนะนำเก็งกำไร SPRC (Buy; TP25F=10.5) และ BCP (Buy;TP25F=49.0)   และเน้นลงทุน TOP(TP25F-78.5)  

SCC -2.52% 

ราคาหุ้นปรับลง รับข่าวลบ เหตุเพลิงไหม้บริเวณโรงงาน ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์/ TPC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC กระทบการผลิตของหน่วย VCM1 (Vinyl Chloride Monomer) โดยบริษัทแจ้งควบคุมเพลิงได้ตั้งแต่ 15.05 น. ของวันที่ 22/9/2024   โดยSCC (Trading Buy;TP290)

- Advertisement -