Daily Focus: ชนเป้า 1,470 จุดแล้ว ก่อนพักตัวสลับ
2024 SET Target : 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นชนเป้าหมายปีนี้ของเราที่ 1,470 จุด แต่มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบเล็กน้อย 0.52 จุด ที่ระดับ 1,461.58 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 6.3 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีกบางๆ 375 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 555 ลบ. (และพลิกมา Short Index Futures 1.8 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,450-1,4/0 จุดชะลอความร้อนแรงสลับการแกว่งขึ้น หลังจากตอบรับเชิงบวกต่อทั้งการลดดอกเบี้ยของ FED รวมไม่ต่ำกว่า 100 bps ปีนี้ รวมถึงจีนที่เดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย Upside ระยะสั้นยังดูจำกัดจากสัญญาณ Overbought ทางเทคนิคที่ค้างอยู่ราว 3 สัปดาห์ ทำให้มีโอกาสพักฐานระยะสั้น นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อประเมินว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะรุนแรงเพียงใด รวมถึงเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวเร่งขึ้นได้จากมาตรการกระตุ้นหรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายเศรษฐกิจจากรัฐบาลทั้งระยะสั้นและระยะยาว เริ่มจากนโยบายแจกเงินหมื่นที่เริ่มต้นแล้วเฟสแรก 1.45 แสนลบ. หนุน GDP 4Q24 เร่งตัวและชดเชยผลกระทบของสถานการณ์น้ำท่วม คาดยังหนุนหุ้นในกลุ่ม Consumption Play ตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯเดือน ส.ค. และ Comment ของประธาน FED ส่วน Highlight อยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเดือน ก.ย. ปลายสัปดาห์หน้า ด้าน Downside ของดัชนีคาดไม่ลึกโดยมีเม็ดเงินใหม่จากกองทุนวายุภักษ์ 1 เข้ามาช่วยหนุนในเดือน ต.ค. เป็นต้นไป
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 2H24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ก.ย.: BDMS, CPALL, ICHI, MTC, NSL
FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CALL, CPN, GPSC, KCG, KTB, MTC, NSL, SHR, TU
หุ้นเด่น Finansia 26 ก.ย. 24 : BJC
- แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus 26.59 บาท
- โมเมนตัมกำไร 3Q24 คาดชะลอ q-q จาก Low Season ของธุรกิจ แต่คาดเติบโตได้ y-y ล่าสุด SSSG ของ BigC เดือน ส.ค. เริ่มพลิกมาเป็นบวกได้ราว 2% ขณะที่ Margin คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าไฟที่ลง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน
- Consensus คาดกำไรสุทธิปี 2024-25 ที่ 4.3 พันลบ. -10% y-y และ 5.2 พันลบ. +20% y-y ในระยะสั้นคาด BJC เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์จากการแจกเงินหมื่น ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2025PER ต่ำที่สุดในกลุ่ม Consumer Staple ที่ราว 18 เท่า และยังต่ำกว่า Book Value ที่ราว 30 บาท และให้ Dividend Yield ราว 3-3.5% ต่อปี
- แนวรับ 24.30//24 บาท แนวต้าน 25//26 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ส่งออกไทยเดือน ส.ค. ดีกว่าคาด ยอดส่งออกเดือน ส.ค. +7% y-y ดีกว่าตลาดคาดไว้ที่ +6% y-y ส่วนยอดนำเข้าเดือน ส.ค. +8.9% y-y สูงกว่าตลาดคาดไว้ที่ +6.5% y-y ส่งผลให้เดือน ส.ค. ไทยพลิกมาเกินดุลการค้าบางๆ US$0.26 พันล้าน สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรส่งออกเดือน ส.ค. +17% y-y โดยสินค้าที่ขยายตัวคือ ข้าว,ยางพารา, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป นำโดยทูน่ากระป๋องยังโตแรง และอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอาหารสุนัขและแมวยังโตเร่งขึ้น +31.7% y-y ทำนิวไฮต่อเนื่อง
(+) ราคายาง SICOM พุ่งขึ้นทำนิวไฮรอบ 7 ปี วานนี้แตะ 209.5 เซนต์ต่อกก. +3.7%d-d และ +8.6% W-w หลังจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ โดยเฉพาะที่มี Demand จากจีนสูง ยังมีราคาน้ำตาลที่ขยับขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 23.12 เซนต์ต่อปอนด์ +13.5% w-w และราคาถั่วเหลืองขยับขึ้นเล็กน้อย +2.3% w-w เป็น 10.38 เหรียญต่อบุชเชล ตราบใดที่ราคาสินค้ายังทรงตัวสูงหรือปรับขึ้นต่อเนื่อง เราแนะนำ “เก็งกำไร” STA, NER, KSL, BRR และ TVO
(0) SC ประกาศแผน 5 ปี ขยายพอร์ตธุรกิจ Recurring Income อาทิ คลังสินค้า โรงแรมและออฟฟิศ ด้วยงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าสัดส่วน EBITDA ปี 2029 จาก Engine 2 หรือ Recurring income มากกว่า 25% ของกลุ่ม SC เรามองเป็นกลางต่อยอด Presales 3QTD คาด 5.6 พันลบ. และงบ 3Q24 ที่ 6 พันลบ. +6% q-q, -29% y-y หลังปรับกลยุทธ์ขายด้วยการจัด Event เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น คงประมาณการกำไรปี 2024 -23.4%และ +15.5% y-y ในปี 2025 เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายเป็นปี 2025 ที่ 3.20 บาท ระยะสั้นขาด Catalyst จากแนวโน้ม 3Q24 ไม่สดใส คาดกำไรสุทธิลดลงทั้ง q-q และ y-y คงแนะนำ “ถือ”
(+) หุ้นเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์ 1 ระบุให้ผลตอบแทน 3-9% ระยะเวลาลงทุน 10 ปีเราคัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายโดยอ้างอิง หุ้นที่มี ESG Rating A ขึ้นไปสำหรับ SET100 และ AA ขึ้นไปสำหรับหุ้นนอก SET100 โดยเน้นหุ้นที่มี Dividend Yield ราว 3%หรือสูงกว่า หรือหุ้นเติบโตดี (Dividend Yield อาจไม่ถึง 3%) ได้แก่ ADVANC AP BAM BBL BCH BDMS BJC CALL CPN HMPRO ICHI INTUCH KBANK KTB MEGA MINT OSP SC SIRI TISCO WHA WHAUP PR9 DIF 3BBIF TFFIF AIMIRT CPNREIT LHHOTEL LHSC WHAIR
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 293.47 จุด หรือ -0.70% ปิดที่ 41,914.75 จุด โดยดาวโจนส์ และ S&P500 อ่อนแรงลงหลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ และการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งรวมถึงเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในสัปดาห์นี้
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบขณะที่หุ้นเอสเอพี (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ของเยอรมนีร่วงลงจาก ข่าวที่ว่าสหรัฐฯ กำลังดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการที่ SAP ร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ในการกำหนดราคาค่าบริการที่สูงเกินไปจากหน่วยงานสหรัฐฯ
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก นำโดยดัชนี CSI 300 โดยยังมีแรงส่งต่อเนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนล่าสุด
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 32.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.40%
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.61% ปิดที่ 69.69ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าความขัดแย้งในลิเบียเริ่มคลี่คลายลง และทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันลดน้อยลงด้วย นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ชะลอตัว แม้ว่าจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก็ตาม ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 69.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.17%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 2,684.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งไปจนถึงปีหน้า ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,682.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.07%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 877.12/ –
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 ก.ย. | สหรัฐ: Durable Goods Orders (ส.ค.), Fed Chair Powell Speech |
27 ก.ย. | สหรัฐ: Core PCE Price Index (ส.ค.) |
30 ก.ย. | จีน: NBS Manufacturing PMI (ก.ย.) |
1 ต.ค. | ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ก.ย.) สหรัฐ: ISM Manufacturing PMI (ก.ย.), JOLT Job Quits (ส.ค.) |
2 ต.ค | ประชุมกลุ่ม OPEC+ |