BM ประกาศกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกพุ่งขึ้น 82.91% เฉพาะงวดไตรมาส 3/64 กำไรเติบโต 7.66% สวนทางกับรายได้ที่ปรับตัวลดลง แต่ด้วยกระบวนการบริหารจัดการต้นทุนของวัตถุดิบที่ดี รวมถึงความสามารถในการจัดการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนผลงานไตรมาสสุดท้าย มั่นใจทั้งรายได้และกำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง รับอานิสงส์คลายล็อกดาวน์ รวมทั้งปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศ แถมเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มีการทยอยส่งมอบงานเป็นจำนวนมากให้กับลูกค้า ทั้งภาครัฐและเอกชน การันตีผลงานทั้งปีโตตามเป้า

 

นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9  เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 71.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.45 ล้านบาท หรือ 82.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีรายได้รวม  809.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.01 ล้านบาท หรือ 19.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 34.15  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.43 ล้านบาท หรือ 7.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 242.66 ล้านบาท ลดลง 25.86 ล้านบาท หรือ 9.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัท ทำให้มีการชะลองานในบางส่วนออกไป กระทบต่อรายได้ของบริษัท แต่เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จึงยังสามารถทำกำไรในไตรมาสนี้ไว้ได้

ส่วนรายได้หลักจากการขายและบริการที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีการปิดไซต์งานก่อสร้าง ตามมาตรการการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐ ส่งผลให้เกิดการชะลอการส่งงานให้กับลูกค้า โดยงานที่ชะลอออกไปจะเริ่มทยอยส่งงานได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 ของปีนี้ ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ารายได้ของบริษัทจะปรับตัวลดลง แต่ด้วยกระบวนการบริหารจัดการต้นทุนของวัตถุดิบที่ดี โดยปรับราคาสินค้าตามภาวะตลาด รวมถึงความสามารถในการจัดการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ต้นทุนการขายและบริการในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 177.38 ล้านบาท ลดลง 33.60 ล้านบาท หรือ 15.93% ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 11.81% เป็น 13.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ลูกค้าในกลุ่มรับเหมาปิดไซต์งานก่อสร้างตามมาตรการของภาครัฐ จึงทำให้มีการชะลอการเรียกงาน โดยหลังจากการคลายล็อคดาวน์ของภาครัฐ จะทำให้ในไตรมาส 4 นี้ บริษัทจะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นจากส่งสินค้าที่ชะลอไป ประกอบการที่บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนราคาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าทั้งปียังรักษาระดับการเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้” นายธานิน กล่าว

ขณะที่ทิศทางการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ BM ยังคงมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รวมถึงผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปอื่นๆ จากโลหะ ตามความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการผลิตและจำหน่ายรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่ใช้บรรทุกส่วนบุคคลและใช้บรรทุกสิ่งของ ที่มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อล่วงหน้ารอไว้แล้วบางส่วน โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง ประกอบกับบริษัทได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งลงทุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ จากมาตรการคลายล็อกดาวน์และนโยบายเปิดประเทศ นับเป็นผลดีต่อบริษัทในช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เนื่องจากมีการทยอยส่งมอบงานเป็นจำนวนมากให้กับลูกค้า ทั้งภาครัฐและเอกชนในช่วงปลายปีนี้และต่อเนื่องไปถึงปี 2565 จึงคาดว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/64 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี และมั่นใจว่าผลประกอบการตลอดทั้งปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้

**********************************

- Advertisement -