เงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า หนุนกลุ่มส่งออก

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนบวก 0.09% ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม Technology และกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความกังวลในตะวันออกกลางยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.46% ปัจจัยหนุนยังคงมาจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางแม้สต๊อกสหรัฐฯจะเกินกว่าคาดก็ตาม

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รายงานการจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP อยู่ที่ 1.43 แสนราย ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.24 แสนราย แต่สต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอกับตลาดน้ำมัน โดยการจ้างงานภาคเอกชนพบว่าเพิ่มขึ้นในทุกขนาดธุรกิจยกเว้นเพียงธุรกิจขนาดเล็กที่มีการจ้างงานราว 1-19 คน (จ้างงานลดลง 1.3 หมื่นราย) ในส่วนของอุตสาหกรรมพบว่าเพิ่มขึ้นในทุกๆ อุตสาหกรรม ยกเว้นเพียงอุตสาหกรรมที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังพอไปได้เพียงแต่อาจไม่ได้แข็งแกร่งเท่าก่อนหน้า สิ่งที่นักลงทุนเริ่มสะท้อนผ่านตลาดพันธบัตรก็คือมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะเริ่มเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2,10 ปีไม่ปรับลง และปรับขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับ CME FED Watch กลับมาให้น้ำหนักที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ย. ราว 65% เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าที่ราวๆ 45%

กลับมาที่ปัจจัยในประเทศ หลังจากที่นักลงทุนมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มแข็งค่าและเป็นผลให้เงินบาทเริ่มอ่อนค่าทดสอบ 32.9 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ จากก่อนหน้าที่ 32.2 บาท /ดอลลาร์สหรัฐฯ กดดันกระแสเงินทุนต่างชาติ โดยเริ่มเห็นการขายสุทธิของนักลงทุน ต่างชาติ 6 วันทำการที่ผ่านมา ขายติดต่อกันสะสมราว 1.17 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็เริ่มทรงตัวและวานนี้พลิกกลับมาติดลบ 0.9% แม้นักลงทุนสถาบันจะ ซื้อสุทธิ 4.6 พันล้านบาทก็ตาม ในขณะที่ Valuation ก็เริ่มเข้าสู่จุดไม่ถูกมากนัก หากอิง Earnings Yield Gap (รูปด้านขวามือ) จะพบว่ากลับลงมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและดัชนี ISM ภาคบริการ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.2 แสนราย และ 51.7 ส่วนคืนวันศุกร์ตัวเลขสำคัญกับอัตราการว่างงาน Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 4.2%

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1440 – 1460 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนักลงทุนที่ Trading ขึ้นมาจากโซนล่างเป็นจังหวะทยอยทำกำไร จากการที่สะท้อนปัจจัยบวกต่างๆไปมากแล้ว ส่วนนักลงทุนระยะสั้นที่ประสงค์ Trading แนะนำกลุ่ม ส่งออก (TU ITC) ผลบวกเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้น

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท)

4Q24 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจาก 1) ARR มีโอกาสเติบโต YoY ตลอดปี 2024 จากแผนการทะยอยปรับปรุงห้องพัก และเปิดโรงแรมแห่งใหม่ต่อเนื่อง และ 2) เป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย และมัลดีฟส์ (คิดเป็นสัดส่วน 25% และ 27% ของรายได้ทั้งหมดใน ปี 2023 และ 1H24 ตามลำดับ)

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.30 บาท)

ช่วง 2H24 ในแง่รายได้คาดยังเติบโตได้ดีในทุกธุรกิจ เพราะเข้าสู่ช่วง High Seasons ของการส่งออกแล้ว รวมถึงจะเริมเห็นผลดีจากการทำการตลาดสำหรับสินค้าแบรนด์ของ TU เองที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่แข็งจะเป็นการเทียบกับฐานเดียวกันแล้ว ด้านกำไรขั้นต้นคาดยังรักษาระดับสูงได้ต่อ หลังจากราคาทูน่าปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ (เดิมเคยคาดทั้งปีอยู่ที่มากกว่า 1,600 เหรียญฯ/ตัน เหลือต่ำกว่า 1,500 เหรียญฯ/ตัน)

- Advertisement -