KS Daily View 03.10.2024 >>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยกระดับมากขึ้น แต่ได้ตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าคาดช่วยหนุน มอง SET พักฐาน ที่กรอบ 1,430 – 1,460 แนะนำ MINT, ORI
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว Dow Jones +0.09%, S&P 500 +0.01%, Nasdaq Composite +0.08% และ Russell 2000 -0.09% ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากอิสราเอลประกาศท่าทีว่าจะมีการตอบโต้การยิงขีปนาวุธของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขการจ้างงานของ ADP เดือนกันยายนที่แสดงการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงาน 143,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 125,000 ตำแหน่ง โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นวานนี้เป็นกลุ่ม Energy และ Technology โดยเฉพาะกลุ่ม Semiconductors
SET Index ปรับตัวลง 13 จุด ปิดที่ระดับ 1,451.40 จุด ร่วงลงตามตลาดในภูมิภาค และปรับตัวลงเกือบทุก Sector นำโดย Agriculture, Financial, Media และ Tourism โดยมีแรงกดดันจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจยกระดับขึ้นหลังอิหร่านมีการยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล ประกอบกับค่าเงินบาทที่เริ่มมีทิศทางอ่อนค่าจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้น คาด SET เข้าสู่การพักฐาน มองกรอบที่ 1,430 – 1,460 แนะนำ MINT, ORI
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานจาก ADP เพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน มากกว่าคาดที่ 125,000 ตำแหน่ง โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากชะลอตัว 5 เดือนติดต่อกัน
- ผลโพลหลังดีเบตผู้สมัครรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ว่า เจ.ดี. แวนซ์ (รีพับลิกัน) ชนะ ทิม วอลซ์ (เดโมแครต) เล็กน้อย ด้วยคะแนน 42% ต่อ 41% จากผู้ตอบแบบสอบถาม 1,630 คน ทั้งคู่ทำคะแนนได้ดีในประเด็นต่างๆ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลดีเบตนี้จะไม่ส่งผลกระทบมากต่อคะแนนนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
- รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นคนใหม่ นายเรียวเซอิ อาคาซาวะ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ไม่ได้สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยระบุว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนการขึ้นดอกเบี้ย และเน้นย้ำว่าการเอาชนะภาวะเงินฝืดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คำกล่าวนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลใหม่ไม่ต้องการให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รีบเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าราว 2% เมื่อวานนี้
- นายอัสสเดช คงสิริ ผู้จัดการ ตลท. คนใหม่ เตรียมประกาศแผนกลยุทธ์ 3 ปี ภายในพฤศจิกายน 2567 มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นการลงทุนเพื่อส่วนรวมและสร้างความเท่าเทียม ผ่าน 5 แนวทางหลัก เน้นพัฒนาการสื่อสาร ยกระดับบริษัทจดทะเบียน และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปลายปีดีขึ้นจากปัจจัยบวกในประเทศ
- สำนักงาน กกพ. ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 2,180 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และพลังงานแสงอาทิตย์ 1,580 เมกะวัตต์ ให้สิทธิแก่ผู้ที่เคยยื่นข้อเสนอรอบแรกแต่ไม่ได้รับคัดเลือก 198 ราย โดยกำหนดขั้นตอนตั้งแต่ประกาศรายละเอียดจนถึงลงนามสัญญา ใช้เวลาประมาณ 8 เดือนถึง 2 ปี
- ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อยท่ามกลางความกังวลเรื่องการหยุดชะงักของอุปทานจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และท่าทีของอิสราเอลที่ประกาศจะตอบโต้อิหร่าน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันลดช่วงบวกลงหลังรัสเซียส่งสัญญาณว่า OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนธันวาคม และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ยังมีความกังวลที่สมาชิก OPEC+ บางประเทศผลิตเกินโควตา
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- MINT: ราคาพื้นฐาน 43.02 บาท
จากการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้าง Laggard ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ราคาหุ้นสามารถยืนได้ค่อนข้างดีเมื่อวานนี้ที่ SET ปรับตัวลงแรง จึงมองเป็นจังหวะซื้อต่อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 43.02 บาท และมีปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของแนวโน้มผลประกอบการ 3Q24 ที่น่าจะออกมาดีจากการจัดงานโอลิมปิกในยุโรปซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท นอกจากนี้เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงหนุนให้ ECB น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในช่วง Golden Week ที่มีแนวโน้มเลือกยุโรปเป็นจุดหมายปลายทางตามรายงานของ Trip.com
- ORI: ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท
จากปัจจัยการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ การสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาล ทำให้ผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 น่าจะดีขึ้น บริษัทเปิดโครงการใหม่ๆ ในทำเลที่น่าสนใจ เช่น “Origin Place” ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ โดย ORI ยังมีการจัดการต้นทุนได้อย่างดีและพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ตลาด ทำให้สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามากและยัง Laggard กลุ่ม รวมถึงมีอัตราเงินปันผลต่อปีที่ราว 8 – 9% จึงแนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 7.30 บาท
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหรัฐ (ISM Service PMI) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.5 จุดทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน (Factory Orders) ในสหรัฐ เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +5.0% YoY
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.40 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.42 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า