กังวลสงครามต่อ / 1,430-1,450
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET คาดยังชะลอตัวลง: โดยผู้เล่นที่อยู่ฝั่งซื้อสุทธิยังคงเป็นนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ฝั่งขายสุทธิยังเป็นนักลงทุนต่างชาติ ทำให้มอง SET อาจชะลอตัวลงต่อด้วยแรงกดดันของหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ปัจจัยกดดันนำโดย 1) ความกังวลในประเด็นสงครามตะวันออกกลางที่อาจลุกลามบานปลายยังปกคลุมตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยวานนี้อิสราเอลเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่พื้นที่ในเขต Beirut และเตรียมตอบโต้การลอบโจมตีด้วยมิสไซล์ของอิหร่าน สร้างความกังวลให้ตลาด Vix Index ปรับตัวขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สงครามในช่วง 3 วันมานี้กว่า 21% และนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 วานนี้ขายสุทธิไปกว่า 2.7 พันล้านบาท ด้านราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นรับประเด็นดังกล่าวเช้านี้ทดสอบระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง มองอาจหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ 2) การหารือระหว่างรมว.คลัง และ ธปท. ผลออกมาว่าจะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากผู้ว่าการธปท.มองว่าปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นปัญหาที่สำคัญกว่าและช่วยให้ภาคเศรษฐกิจฟื้นจากหนี้ได้มากกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพียงไม่กี่ bps ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่านั้นมองจะไม่กระทบปริมาณการส่งออก และจะเป็นแรงหนุนให้การส่งออกในไตรมาส 4 รวมถึงการท่องเที่ยว โดยกรอบอัตราเงินเฟ้อจะมีการหารืออีกครั้งภายในเดือนนี้ มองหุ้นในกลุ่มค้าปลีก การเงิน และอสังหา จะยังถูกกดดันด้วยภาพอัตราดอกเบี้ยระดับสูงต่อไป ขณะที่กลุ่มธนาคารอาจได้รับผลบวกจากการคงอัตราดอกเบี้ย ด้านปัจจัยบวกยังมีความหวังจาก 1) แรงซื้อของกองทุนวายุภักษ์โดยวานนี้นักลงทุนสถาบัน ยังซื้อสุทธิที่ 2.74 พันล้านบาท คาดจะช่วยพยุง Down side ของตลาด 2) ยังอยู่ในช่วง Golden week จีนคาดหุ้นกลุ่ม ท่องเที่ยวยังน่าสนใจ สัปดาห์หน้าติดตาม เงินเฟ้อไทย(ก.ย.) รายงานการประชุมFOMC เงินเฟ้อ CPI/PPI สหรัฐ (ก.ย.)
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว: AOT, CPN, CRC, MINT, AWC, CENTEL, ERW2) วายุภักษ์ : ADVANC, AP, FTREIT, GULF, INTUCH, LHHOTEL, BGRIM, SCC, CPF 3) Data center: BBIK, BE8, INSET, TRUE, WHA และ 4) Defensive: TTW, BEM
ปัจจัยบวก
- รมช.คลังเผยรัฐบาลมีความพยายามจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้าโตได้มากกว่า 3% และในปลายปีนี้ได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบของมาตรการภาษีและการกระตุ้นใช้จ่ายไว้แล้ว
- ผู้จัดการวีซ่าเผย ไทยเป็นผู้นำในเรื่องระบบการชำระเงินที่ไม่แพ้ใครในภูมิภาค พร้อมชี้ไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดภายในปี 2023-2028 ซึ่งจะช่วยลดด้นทุนการทำธุรกรรมในระบบเศรษฐกิจได้มาก
- TCEB จัดงาน Mini EEC Fair 2024 เพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางของ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ การแพทย์ ดิจิทัล ยานยนต์เศรษฐกิจชีวภาพ และบริการ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีแผนจะมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมการใช้ AI ในการพัฒนาวัสดุเซมิคอนดักเตอร์รูปแบบใหม่สร้าง Sentiment บวกให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลสงครามตะวันออกกลางหนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำ
ปัจจัยลบ
- นักวิเคราะห์เตือนการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีนในฐานะเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก ทำให้ความพยายามของชาติตะวันตกในการควบคุมการส่งออกเป็นเรื่องยาก และยังอาจทำให้การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหยุดชะงักได้ด้วย
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาข้าวขาวไทยร่วงลงกว่า 11% มาอยู่ที่ 509 ดอลลาร์ต่อตัน ลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 15 เดือน หลังอินเดียผ่อนปรนมาตรการส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติเพื่อลดปัญหาข้าวในประเทศล้นตลาด
- กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ประกาศห้ามน้ำเข้าสินค้าจากบริษัทเหล็กกล้าและบริษัทผู้ผลิตสารให้ความหวานของจีน โดยกล่าวหาว่าบริษัทสองรายนี้บังคับใช้แรงงานในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์จากมีข้อกล่าวหาว่า จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อย
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Services PMI ของ EU เดือน ก.ย. อยู่ที่ 49.6 ลดลงอย่างมาก จากระดับ 55.0 ในเดือนส.ค. ชี้นำสัญญาณลบในภาคบริการ
PICKS OF THE DAY
CPF BUY
- เป้าหมาย 25.50 / 26.00 แนวรับ 24.00
- ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงตามคาด: ต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องนำโดยราคาข้าวโพดอาหารสัตว์เดือนกันยายนที่ 11.25 บาทต่อกก. ปรับตัวลดลง 7.4% m-m คาดจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดในไทยช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ตามมาด้วยราคากากถั่วเหลืองปรับตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ 19.50 บาทต่อกก. ลดลง 4% m-m ทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้ราคาต้นทุนอาหารสัตว์ของ CPF จะลดลง ช่วยให้ GPM มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น
- ราคาเนื้อสัตว์อยู่ในแนวโน้มที่ดี: แนวโน้มราคาสินค้าเนื้อสัตว์ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี โดยแม้ว่าราคาไก่ในประเทศไทยจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 42 บาทต่อกก. -2.3% m-m ในเดือนกันยายน แต่ราคาหมูไทยกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อยู่ที่ 73 บาทต่อกก. +1.4% m-m ขณะที่ราคาหมูในเวียดนามในเดือนสิงหายังคงอยู่ในระดับสูงที่ 61,357 VND/kg. +0.22% m-m จากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายคาดราคาหมูในเวียดนามจะปรับลดลง ด้วยราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทอาจบันทึกกำไรจาก Bioasset ได้เพิ่มเติม
TTW BUY
- เป้าหมาย 9.70 / 10.00 แนวรับ 9.00 / 9.20
- 3Q67 ปริมาณขายโตและรับรู้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น: ปริมาณขาย +8.4% y-y ที่ 78.42 ล้าน ลบ.ม. แม้รายได้จะปรับตัวลง เพราะสัญญาใหม่ของ PTW อัตราค่าน้ำลดลง แต่จะเห็นกำไรจากธุรกิจน้ำประปาลดลงในระดับที่ต่ำกว่า ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP มีแนวโน้มสูงขึ้น แม้หลักมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจากบริษัทร่วมที่คาดสูงขึ้นมีนัยสำคัญ แนวโน้มกำไรจะสูงขึ้น q-q และ y-y
- ธุรกิจน้ำประปากำไรผันผวนต่ำ ทำให้จ่ายปันผลได้เหมือนเดิม: ธุรกิจหลักน้ำประปากำไรผันผวนต่ำ ทำให้ยังจ่ายปันผลได้ปีละ 0.60 บาท มี Div. Yield กว่า 6% เป็นตัวพยุงราคาหุ้นไว้ได้ในภาวะตลาดผันผวน ประกอบกับปี 2568 ราคาขายจะปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ จากปีนี้ที่ราคาขายลดลง รวมถึงปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น ยังตอกย้ำความสามารถในการจ่ายเงินปันผล