บล.ไอร่า:

TMT ทีเอ็มที สตีล 3Q/64 กําไรสุทธิ 341 ล้านบาท โดดเด่น yoy แต่ลดลง 44%qoq หลังสะท้อนต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้น คาดภาพรวมทั้งปี’64 กำไรสุทธิสูงถึง 1,762 ล้านบาท แม้ 2H/64 ชะลอตัวจาก 1H/64

  • กําไรสุทธิ 3Q/64 จํานวน 341 ล้านบาท เติบโตกว่า 1 เท่าตัวจาก 3Q/63 แม้ปริมาณขายลดลง 15%yoy อยู่ที่ประมาณ 169,000 ตัน ผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 ที่มีการล็อกดาวน์ รวมถึงการส่ังปิดแคมป์คนงาน และหยุดการก่อสร้างขนาดใหญ่ในเขตควบคุมสูงสุด ทําให้ปริมาณความต้องการในตลาดโดยรวมลดลง อย่างไรก็ตาม ได้รับการชดเชยจากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 74%yoy อยู่ที่ประมาณ 33,300 บาท/ตัน  จากข้อจํากัดในการนําเข้าหลังจีนและประเทศอื่นๆ ควบคุมการผลิตเพื่อใช้ในประเทศและลดส่งออก ส่งผลให้มีรายได้ขายจํานวน 5,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% พร้อม Gross Profit Margin เฉลี่ย 10.72% เพิ่มขึ้นจาก 9.39% เมื่อ 3Q/63
  • แต่เมื่อเทียบ qoq กําไรสุทธิลดลง 44% แม้ราคาขายเพิ่มขึ้น 10% แต่ Gross Profit Margin ลดลงมาอยู่ที่ 10.72% หลังขึ้นไประดับสูงสุด 18.46% เมื่อ 2Q/64 หลังประโยชน์จากต้นทุนเหล็กต่ำลดลง และรับรู้ต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้น
  • แม้แนวโน้ม 2H/64 ชะลอตัวจาก 1H/64 แต่คาดภาพรวมปี’64 มีกําไรสุทธิสูงถึง 1,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้น กว่า 2 เท่าตัวจากปี’63 ขณะที่คาดปี’65 ความสามารถทํากําไรกลับสู่ระดับปกติ คาด Gross Profit Margin เฉลี่ย 9% พร้อมคาดปริมาณขายกลับสู่เป้าหมายเดิม 800,000 ตัน และคาดราคาขายเฉลี่ย ~25,000-27,000 บาท/ตัน ทําให้คาดรายได้ขายและกําไรสุทธิ อยู่ที่ 21,738 ล้านบาท และ 862 ล้านบาท
  • แม้ผลการดําเนินงานของ TMT จะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และเข้าสู่ระดับปกติในปี’65 แต่ TMT มีความน่าสนใจ จากความสามารถบริหารจัดการผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย และรองรับความต้องการทุกกลุ่มลูกค้า (Total Solutions) และการบริหารจัดการ Stock โดยเฉพาะในช่วงราคาเหล็กผันผวน ทําให้รักษาความสามารถในการทํากําไรไว้ได้ พร้อมคาดปันผล 2H/64 อีก 0.60 บาท คิดเป็น Div.Yield สูงกว่า 10% และคาด 7% ในปี’65 ประเมินราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 12.00 บาท อิง PE 12X ณ ระดับราคาปัจจุบันมี Upside ~14% ทําให้ปรับคําแนะนําจากเดิม “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” เป็น “ซื้อ”
- Advertisement -