SUPER โชว์ฟอร์มแกร่ง ผลงานงวดไตรมาส 3/64  กำไรพุ่ง 586.4 ล้านบาท โต 10.3 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมแตะ 2,035.9 ล้านบาท ผลจากการทยอยรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าในมือ รวม 1,536.32 เมกะวัตต์ ขณะที่บอร์ดอนุมัติส่ง “ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี” เพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นของ “พาวเวอร์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล” จากสัดส่วนถือหุ้น 51% เป็น 99%  ระบุโค้งสุดท้ายปีนี้ ประเมินผลงานสดใส รอรับผลการลงทุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ขนาด 30 เมกะวัตต์ พร้อม COD เพิ่ม พร้อมหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโต มุ่งต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน

 

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในงวดไตรมาส 3/64 มีรายได้รวม 2,035.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384.7 ล้านบาท หรือ 23.3% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,651.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 586.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.8 ล้านบาท หรือ 10.3% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 531.6 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 6,456.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,529.2 ล้านบาท หรือ 31.0% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,927.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,499.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 973.6 ล้านบาท หรือ 63.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,526.0 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานของ SUPER มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าในพอร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,536.32  เมกะวัตต์ เช่น โครงการโซลาร์ฟาร์ม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 550 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้ว รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าขยะ และโครงการต่างๆ ของกลุ่มบริษัท ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้น ทำให้มีการเติบโตที่ดีทั้งในส่วนของรายได้และกำไร

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้เริ่ COD ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ในประเทศเวียดนาม ภายใต้บริษัทย่อยของ บริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) จำนวน 1 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก (Onshore) ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ และเตรียม COD อีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

ด้านผลประชุมคณะกรรมการของบริษัท ได้อนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท พาวเวอร์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PTI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ผู้ถือหุ้นเดิมใน PTI จำนวน 4,607,449  หุ้น คิดเป็น 50.996% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการ จะทำให้ SSE ถือหุ้นใน PTI เพิ่มขึ้นจากเดิม 49.00% เป็น 99.996% และทำให้ SSE มีสิทธิในการออกเสียงและได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้นจากเดิม 51.38% เป็น 99.996%

นอกจากนี้ ยังอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยห่งใหม่คือ บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด จำกัด ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้าจะเป็นโรงไฟฟ้าไฮบริดแห่งแรกที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย

“สำหรับ SUPER ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตรวมให้ไปแตะระดับ 1,900- 2,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2565 และมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งการมีแหล่งรายได้ระยะยาว ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ตลอดจนยังแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ  ที่มีศักยภาพการเติบโต ต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน” นายจอมทรัพย์ กล่าว

******************************************

- Advertisement -