| กลุ่มอุตสาหกรรม | สื่อและสิ่งพิมพ์ |
| หุ้น | MAJOR |
| มูลค่าพื้นฐาน | 26.00 |
| คำแนะนำ | BUY |
คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 26 บาท (จาก 28 บาท) สะท้อนการปรับคาดการณ์กำไรลง จากการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ 4Q21 ไม่ใช่แบบ V-shaped อย่างไรก็ตามธีมการลงทุนยังคงเดิม เนื่องจากเราคาดว่า MAJOR จะพลิกเป็นกำไรใน 4Q21 เป็นต้นไป และมีอัพไซด์ของ DPS ของ 4Q21 นอกเหนือจาก 1 บาทที่จ่ายไป
โทนเป็นบวกเล็กน้อย
MAJOR จัด conference call เมื่อวานโดยมีโทนเป็นบวกเล็กน้อย โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้; i) MAJOR จะมีการฟื้นตัวของจำนวนผู้ใช้บริการแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าธ.ค.จะเป็นเดือนที่ดีที่สุดใน 4Q21 เป็นเพราะบริษัทสามารถเพิ่มจำนวนจอที่ดำเนินงานได้เป็น 90% (จาก 85% ในต.ค.และเล็กน้อยใน 3Q21) และเพิ่มรอบการฉายต่อวันเป็น 4 รอบจาก 2-3 รอบในต.ค. และเพิ่มจำนวนที่นั่งเป็น 75% จาก 50% ในต.ค. นอกจากนี้ผู้ชมภาพยนตร์สามารถซื้อและทานป๊อบคอร์นในโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะช่วยหนุนโมเมนตัมรายได้จาก 3Q21 จากที่กล่าวมา บริษัทคาด 4Q21 จะพลิกเป็นกำไรได้แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด; ii) แม้รายได้จะค่อยๆฟื้นตัว แต่บริษัทยังคงเน้นไปที่การประหยัดต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไรใน 4Q21 การประหยัดต้นทุนรวมถึง ค่าพนักงาน, งบลงทุนต่อจอ, และค่าเช่าพื้นที่; iii) บริษัทจะคืนเงินสดให้ผู้ถือหุ้นทางปันผลต่อ แม้จะประกาศปันผลไปแล้ว 1.0บาท บริษัทเปิดเผยว่ากำไรใน 4Q21 จะจ่ายเป็นปันผลในสิ้นปี 2021
ปรับคาดการณ์กำไรปี 2021-2022
การฟื้นตัวใน 4Q21 จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่ารวดเร็ว เราจึงปรับคาดการณ์ปี 2021 จากกำไร 86ลบ. เป็นขาดทุน 666ลบ. สะท้อนคาดการณ์ 4Q21 ที่กำไร 100ลบ. จากขาดทุน 572ลบ.รวมถึงปรับคาดการณ์กำไรปี 2022 ลง 32% เพื่อสะท้อนว่าโควิด19ทำให้ความมั่นใจของผู้ชมภาพยนตร์ยังไม่กลับไปสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตามเราคงคาดการณ์กำไรปี 2023 ไว้ว่าความมั่นใจจะกลับมาใน 2023
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายต่ำลงที่ 26 บาท จาก 28บาท
เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 26 บาท จาก 28 บาทเพื่อสะท้อนการปรับคาดการณ์กำไรลง อย่างไรก็ตามเราคงคำแนะนำ ซื้อ จากธีมการลงทุนในการฟื้นตัวของกำไร และมีอัพไซด์ของ DPS เนื่องจากบริษัทอาจจ่ายปันผลเพิ่มจากกำไรใน 4Q21
