Daily Focus: ยังไม่ผ่านแนวด้าน 1,470+- จุด ตามคาด รอผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ
2025 SET Target: 1600
ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบแคบก่อนปิดลบบางๆ 1.87 จุด ที่ระดับ 1,464.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 3.3 หมื่นลบ. โดยอยู่ในโหมด Wait & See รอผลการเลือกตั้งสหรัฐฯวันอังคารนี้สถาบันในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2.4 พันลบ. (และ Short Index Futures 1.2 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่ง Sideways ต่อเนื่อง โดยยังมีแนวต้านหลักบริเวณ 1,470+- จุด และรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในคืนวันอังคารนี้ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดมาก โดยมีผลบางส่วนจากการ Strike ของ Boeing อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอัตราว่างงานยังยืนที่ 4.1% ขณะที่ค่าแจ้งแรงงานขยับขึ้น +0.4% m-m สูงกว่าที่คาดเล็กน้อย ทำให้ภาพรวมตัวเลขภาคแรงงานยังค่อนไปในทางผสมผสาน ส่วนตลาดทุนตอบรับผัวผวนในช่วงรายงานตัวเลข ด้าน Bond Yield 2 ปีขยับลงเล็กน้อย แต่ 10 ปียังปรับตัวขึ้น ส่วน Dollar Index ยังอ่อนค่าอีกเล็กน้อย ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการเลือกประธานบอร์ดธปท. ส่วนโฟกัสในช่วง 2 สัปดาห์นี้จะอยู่ที่การประกาศกำไรบจ. 3Q24 หากไม่ได้ต่ำกว่าคาด และไม่สร้าง Downside ต่อ EPS ของ SET ปี 2024-25 อย่างมีนัยยะ เรายังคงมุมมองการฟื้นตัวของดัชนีในระยะกลาง-ยาว มีโอกาสลุ้นทยอยฟื้นตัวเข้าหาก SET Target ปี 2025 ที่ 1,600 จุด ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เรายังมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะภาคการบริโภค ได้แก่ ไฟแนนซ์ ค้าปลีกอาหารเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งจะได้อานิสงส์จากทั้งดอกเบี้ยที่เริ่มขยับลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากครม. ขณะที่ Downside คาดยังคงถูกจำกัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่คาดทยอยซื้อหุ้นในช่วงปรับลงต่อเนื่อง
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไร 3Q24 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนต่อเนื่องระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : MAGURO, MTC, OSP, SFLEX, VIH
FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CALL, CPN, KCG, KTB, MTC, NSL, SFLEX, SHR, TU
หุ้นเด่น Finansia 4 พ.ย. 24 : WHA
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 6.40 บาท
- คาดกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 951 ลบ -26% q-q, +53% y-y ตามยอดโอนที่ดินที่คาดว่าจะมีการโอน 370 ไร่ เทียบกับ 620 ไร่ใน 2Q24 และ 289 ไร่ใน 3Q23 แนวโน้ม 4Q24 สดใส ยอดโอนที่ดินมักจะกระจุกตัวในช่วงปลายปี และยังมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHAIR
- เราคงคาดกำไรปี 2024 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 พันลบ. +9% y-y และมีโอกาสสูงที่ยอดขายที่ดินปี 2024 จะทะลุเป้า 2,500 ไร่ ทั้งนี้ เราคาดกำไรปี 2024-26 โดเฉลี่ย 9% CAGR และมี Catalyst จากกระแสบริษัท Tech ต่างชาติที่ทยอยเข้ามาซื้อที่ดินลงทุน Data Center
- แนวรับ 5.65-5.60 บาท แนวต้าน 6.20 บาท
Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคสุทธิต่อเนื่องอีก US$838 ล้าน กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$693 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้ไหลออกบางลงเหลือ US$54 ล้าน ด้านอาเซียนเม็ดเงินยังคงไหลออกต่อเนื่อง สูงสุดที่ไทย US$72 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกแต่ชะลอตัวลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาผสมผสาน และตลาดรอจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ สัปดาห์นี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) CRC คาดกำไรปกติ 3Q24 ที่ 1.4 พันลบ. -11% q-q จากปัจจัยฤดูกาลและการ renovate ห้าง La Rinascente แต่ +9% y-y จากรายได้ที่เติบโตและการควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ดีขึ้น ชดเชยกับอัตรากำไรขั้นต้นที่แคบลง แม้ภาพรวม SSSG อาจยังติดลบ 2% มีเปิดสาขายใหม่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนรายได้เติบโต แนวโน้ม SSSG 4Q24 น่าจะดีขึ้นจากสาขาชิดลมและ La Rinascente ที่ renovate เสร็จแล้วและผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คงคาดกำไรปกติปี 2024 +8% y-y ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 42 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) RBF คาดกำไรปกติ 3Q24 ที่ 117 ลบ. +15% q-q, -39% y-y จากรายไดในจีนที่ลดลงและราคาขายในอินเดียที่ต่ำลง อย่างไรก็ตามคาดฟื้นตัว q-q จากการเติบโตในประเทศและรายได้ในอินโดนีเชียที่ดีขึ้น เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2024-26 ลง 16-23% โดยปี 2024-21% y-y และปี 2025 +28% y-y จากการฟื้นตัวทั้งไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 7.20 บาท เชื่อราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนกำไรที่อ่อนแอปี 2024 ไปแล้ว จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
(-) ASK คาดกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 78 ลบ. -6% q-q และ -76% y-y โดยภาพรวมธุรกิจหลักยังซบเซาตามสินเชื่อที่หดตัวต่อเนื่อง 3% q-q, 3% y-Y และ 4% YTD จากความต้องการรถบรรทุกที่ชะลอตัว และบริษัทยังคงระมัดระวังด้านคุณภาพในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งยังเป็นประเด็นกดดันหลักอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่ยังมีความกังวลด้านคุณภาพลูกหนี้และปัญหาตลาดรถบรรทุกมือสองที่ยังเห็นผลขาดทุนในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง คงคาดกำไรสุทธิปี 2024-26 และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 11 บาท คงคำแนะนำ “ถือ”
(-) THANI คาดกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 254 ลบ. ทรงตัวทั้ง q-q และ y-y โดยในภาพรวมยังได้รับผลกระทบจากพอร์ตสินเชื่อที่หดตัวต่อเนื่อง และค่าใช้จ่าย ECL ในระดับสูง คาดภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ใน 3Q24 จะอ่อนตัวลงต่อเนื่องและยังไม่เห็นผลบวกอย่างมีนัยฯ จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ NPL ratio ยังปรับขึ้นแตะ 3.53% ทั้งจากการตกชั้นของลูกหนี้ NPL และอัตราผลขาดทุนจากการขายรถยึดในอัตราที่สูงกว่าปกติ คงคาดกำไรสุทธิปี 2024-26 และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 2 บาท ปันผล 5-6% ต่อปี คงคำแนะนำ “ถือ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 288.73 จุด หรือ +0.69% ปิดที่ 42,052.19 จุด เนื่องจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอะเมซอนดอตคอม (Amazon.com) ได้ช่วยชดเชยการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก และเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจ, ผลประกอบการ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม ก่อนสัปดาห์นี้ ที่คาดว่ามีปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองสำคัญให้ติดตาม อาทิ การเลือกตั้งของสหรัฐฯ และผลการประชุมนโยบายทางการเงินของเฟด
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 33.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.54%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 69.49 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า อิหร่านกำลังเตรียมการที่จะโจมตีตอบโต้อิสราเอลในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ในขณะที่เช้านี้บวกแรงอยู่ที่ระดับ 70.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +1.90%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.00% ปิดที่ 2,749.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น แต่ข้อมูลการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดทำให้บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งได้ช่วยลดช่วงติดลบของราคาทองคำ ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,749.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.00%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 888.63/ -0.35%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 พ.ย. | ไทย: เงินเฟ้อ (ต.ค.) ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง สหรัฐ: ISM Services PMI (ต.ค.) จีน: Caixin Service PMI (ต.ค.) |
7 พ.ย. | จีน: ส่งออก (ต.ค.) อังกฤษ: ประชุม BoE สหรัฐ: ประชุม Fed , Initial Jobless Claims (พ.ย./02), ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ |
9 พ.ย. | จีน: เงินเฟ้อ (ต.ค.) |