บล.ฟิลลิป: (ภาคบ่าย) 06/11/67

SET Index แกว่งตัวออกข้าง ปิดที่ 1,483.15 บวกไป 1.48 จุด (+0.10%) โดยแรงหนุนมาจากหุ้นในกลุ่มอิเล็กฯ กลุ่มธนาคาร กลุ่มยางพารา รวมถึงหุ้น BDMS, ADVANC และ GULF ขณะที่แรงกดดันมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงิน รวมถึงหุ้น CPALL, BH และ AOT

คาด SET Index แกว่งตัว Sideways โดยมอง Sentiment หนุนมาจากภาพการส่งออกของไทยปี 67 หลังกกร.มองได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรขาขึ้นของกลุ่มอิเล็กฯที่ส่งผลให้การส่งออกสามารถเติบโตได้ 2.5-2.9% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 1.5-2.5% ประกอบกับมีปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นกำลังซื้อ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ขณะที่แรงกดดันมาจากการเผยเงินเฟ้อทั่วไปเดือนต.ค.67 ของไทยที่ขยายตัว 0.83% y-y เข้าใกล้ขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% อีกทั้ง ในเดือนพ.ย.67 นั้น TPSO มองมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ภาพข้างต้นสอดรับกับมุมมองของกนง.ที่มองว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยเข้าสู่กรอบในช่วงปลายปี 67 และจะเป็นปัจจัยหนุนให้กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรักษาจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลาง

ด้านการเลือกตั้งสหรัฐฯยังคงต้องติดตาม หลังผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการบ่งชี้ว่าคุณทรัมป์กำลังมีคะแนนนำคู่แข่ง ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของเขา อย่างไรก็ดี แม้ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่อาจถูกเพิ่งเล็กหากคุณทรัมป์ได้เข้าสู่ทำเนียบขาวจากการที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ หากแต่ทางฝ่ายมองในระยะสั้นจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการส่งออกของไทย จากการนำเข้าของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเบียงเบนออกจากจีน สอดรับกับการที่จีนมีแนวโน้มโดนขึ้น Tariff สูงกว่าไทย ส่วนระยะกลาง-ยาวยังคงต้องติดตามว่าคุณทรัมป์จะมีมาตรการเพิ่มเติมต่อไทยหรือไม่

STA คาด 3Q67 มีกำไรสุทธิ 870 ล้านบาท เติบโต 312% y-y และ 38.4% q-q โดยคาดปริมาณขายการ 3.4 แสนตัน เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เนื่องจากจากมียอด Backlog ของ EUDR เลื่อนมาส่งในช่วง 3Q67 ขณะที่ถุงมือยางคาดมีปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการเลื่อนการขนส่งมายัง 3Q67 เหมือนธุรกิจยาง ด้านราคาขายยางเฉลี่ยคาดที่ $1,806 ต่อตัน สูงขึ้น y-y และ q-q