นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TVH

TVH 3Q24 แกร่ง! กำไรสุทธิพุ่งแตะ 87 ล้านบาท บริษัทลูกลุยสร้างนวัตกรรมพลิกโฉมประกันภัยไทยเสิร์ฟผลงานเด่น ส่งซิกปิดปี 67 เบี้ยรับรวมโตตามเป้า 10%  

TVH โชว์ผลงานงวดไตรมาส 3/67 โตแกร่ง กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า แตะ 87 ล้านบาท รายได้สุทธิโตกว่า 12% แตะ 1,896 ล้านบาท อานิสงค์บริษัทลูก “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ลุยสร้างนวัตกรรมพลิกโฉมประกันภัยประเทศไทยต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Beyond Insurance เป็นมากกว่าประกันภัย ปั๊มเบี้ยประกันภัยรับโตเกือบ 11% แตะ 1,878 ล้านบาท ประกาศเขย่าวงการประกันภัยโค้งสุดท้ายปี 2567 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ประกันรถเปิดปิด “รถติดไม่คิดเบี้ย” พร้อมแคมเปญ “Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม” ขับรถปลอดภัยได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี เจ้าแรกในประเทศไทย ส่งซิกปิดปี 2567 เบี้ยประกันภัยรับรวมโตตามเป้า 10%

นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TVH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย, ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2567 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 87 ล้านบาท รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 12.2% อยู่ที่ 1,896 ล้านบาท รับอานิสงค์บริษัทลูกเสิร์ฟผลงานแกร่ง

โดยเฉพาะ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กวาดเบี้ยประกันภัยไปกว่า 1,877 ล้านบาท เติบโต 10.8% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ ตามการเติบโตที่ดีของทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor จากการเดินหน้าคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาพลิกโฉมวงการประกันภัยประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Beyond Insurance เป็นมากกว่าประกันภัย เน้นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางการขาย อาทิ ธนาคาร, โมเดิร์นเทรด และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช เป็นต้น รวมถึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตร เพิ่มสิทธิประโยชน์สอดรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแบบเฉพาะกลุ่ม เพื่อดึงดูดและขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยงวดไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% อยู่ที่ 1,488 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นราว 29% อยู่ที่ 299 ล้านบาท ขณะที่ค่าสินไหมทดแทนสุทธิลดลง 1% อยู่ที่ 1,070 ล้านบาท

นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการเติบโตของ “ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้ง” ช่วงโค้งสุดท้ายมีสัญญาณที่ดี มั่นใจปิดปี 2567 เบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตตามเป้า 10%จากการขับเคลื่อนของธุรกิจหลักอย่างธุรกิจประกันภัย ภายใต้บริษัทลูกอย่าง “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ที่ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “รถติดไม่คิดเบี้ย” โดยจะคืนชั่วโมงความคุ้มครองกรณีรถติดให้อัตโนมัติในวันถัดไป นับเป็นอีกขั้นในการพลิกโฉมวงการประกันภัยของประเทศไทย

พร้อมจัดแคมเปญ  Thaivivat Caring Forward คิดเผื่อเพื่อสังคม”ภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond Insurance for a Better Society มากกว่าประกันภัยคืนสู่สังคม เชิญชวนลูกค้าประกันภัยรถยนต์ร่วมทำความดีคืนสู่สังคม ด้วยการขับรถปลอดภัย ไม่มีการเคลมที่เป็นฝ่ายผิด ซึ่งไม่เพียงจะได้รับส่วนลดประวัติดีในปีถัดไป ยังจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเงื่อนไขของสรรพากร โดยบริษัทฯจะมอบเงินบริจาคในนามของผู้เอาประกันภัยให้กับมูลนิธิ หรือองค์กรเพื่อสาธารณกุศล เพื่อช่วยเหลือสังคมที่ร่วมโครงการ โดยลูกค้าสามารถเลือกบริจาคให้กับมูลนิธิในโครงการฯ ได้แก่ โครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย, มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิยุวพัฒน์, มูลนิธิกระจกเงา, กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก และมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา) ผ่านการลงทะเบียนที่แอปพลิเคชัน Thaivivat 

ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ได้พิจารณาปรับโครงสร้างการถือหุ้นเป็นรูปแบบ โฮลดิ้ง คอมพานี โดยการนำ บริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนหลักทรัพย์ TVI เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเบื้องต้นได้แบ่งโครงสร้างธุรกิจเป็น 2 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจหลัก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประกันภัย ประกอบไปด้วยธุรกิจประกันวินาศภัยในไทย ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย และ 2.กลุ่มธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย โดยพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่ส่งเสริมธุรกิจประกันภัย และหรือธุรกิจมีผลตอบแทนสูง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

- Advertisement -