บล.พาย:

AP: AP (Thailand) PCL

คาดกำไร 3Q24 เติบโตดี QoQ

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 11.10 บาท เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรสุทธิใน 3Q24 ที่ 1.4 พันล้านบาท (-17% YoY, +10% QoQ) จาก 1) ยอดโอนแนวราบที่เติบโต โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากคอนโด JV ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดอ่อนตัว Q0Q อยู่ที่ 34% (-0.8 ppts YoY, -1.4 ppts QoQ) จากการแข่งขันราคา และ product mix อย่างไรก็ตาม บนภาวะการแข่งขันที่สูง เรายังคงมอง AP มีความแข็งแกร่ง ทั้งในด้านการขายสินค้าที่เร็วกว่ากลุ่ม ส่วนแบ่งการตลาด และปันผลที่สูง คาด 6.5%/6.9% ในปี 2024-25

กำไรสุทธิ 3Q24 เติบโต QoQ แต่ยังลดลง YoY

  • กำไรสุทธิใน 3Q24 คาดอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-17% YoY, +10% QoQ) เนื่องจาก 1) การรับรู้รายได้โครงการแนวราบที่คาดเติบโตดีอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท (+13% QoQ) จากการเปิดโครงการใหม่ที่สูงใน 1H24 (มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท) ทดแทนยอดโอนคอนโดที่มีแนวโน้มอ่อนตัวจากฐานสูง หลังมีการโอน Aspire Ratchayothin (มูลค่า 1.5 พันล้านบาท โอน 76%) ใน 2Q24 และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากการโอน Life Rama4-Asoke (คอนโด JV) ที่ราว 320 ล้านบาท (+1% YoY, +107% QoQ)
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงอยู่ที่ 34% (-0.8 ppts YoY, -1.4 ppts QoQ) เนื่องจาก 1) สัดส่วนรายได้รับรู้ที่สูงขึ้นของทาวน์เฮ้าส์ที่มีอัตรากำไรต่ำ 2) มีการทำ price promotion ที่มากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการแนวราบที่มีการแข่งขันมากขึ้นจากสินค้ารอขายในตลาดที่สูง และ 3) สัดส่วนรายได้จากคอนโดที่ลดลง คาดอยู่ที่ 9% ของยอดโอนทั้งหมดผลประกอบการ 4Q24 มีโอกาสเติบโต YoY และ QoQ จากแนวราบเรามองว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 มีโอกาสเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใน 9M24 ที่สูง 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 70% ของเป้าหมายปี 2024 (แนวราบ 78% ของมูลค่าทั้งหมด) โดยผลประกอบการช่วง 2H24 คาดเติบโต HoH เมื่อเทียบกับใน 1H24 จากการเร่งโอนตามกำหนดการปกติ ทั้งนี้ด้วยโครงการคอนโดเหลือขายที่จำกัด (Backlog 3Q24 ก่อนหักยอดโอน แนวราบ 2.3 หมื่นล้านบาท และ คอนโด 5 พันล้านบาท) การเติบโตจากแนวราบเป็นหลักอาจกดดัน GPM ใน 4Q24 ยังคงทรง ตัว QoQ ที่ต่ำอยู่ที่ 34%

ปรับประมาณการปี 2024-25 สะท้อนการแข่งขันที่สูงในตลาด

  • เรามีการปรับประมาณการปี 2024-25 ลง 16.1%/15.4% ตามลำดับ สะท้อนอุปสงค์ที่ชะลอตัว การแข่งขันราคาในตลาดแนวราบที่สูงขึ้นโครงการคอนโดพร้อมโอนที่ลดลงใน 4Q24 และกำไรสุทธิใน 1H24 ที่
    อ่อนแอ ส่งผลให้กำไรในปี 2024 มีแนวโน้มอ่อนตัวอยู่ที่ราว 5.3 พันล้านบาท (-16% จากประมาณการเดิม)
  • ถึงแม้กำลังซื้อใหม่จะยังไม่ฟื้น แต่ในปี 2025 รายได้ยังมีโอกาสเติบโตจาก Backlog โดยมีกำหนดการโอนคอนโด 3 โครงการ และ JV 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดจ่ายปันผล 6.5% ในปี 2024

ปรับมาใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2025 ที่ 11.1 บาท คำนวณด้วย Justified P/E จากการคิดลดเงินปันผล (GGM) โดยมี COE 8.9% และ TG 3% เทียบเท่า 6.2 PE’24 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยที่ 7.6x

- Advertisement -