บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

NORTH EAST RUBBER ราคายังไม่สะท้อนธุรกิจใหม่ที่จะช่วยหนุนกำไรในระยะยาว

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +62.2%

Close Nov 16, 2021 Price (THB) 7.40

12M Target (THB) 12.00

Previous Target (THB) 11.50

What’s new?

  • แนวโน้มกำไร 4Q64 จะยังทรงตัวสูงท่ี 580 – 600 ลบ. แม้ว่าจะมีฐานท่ีสูงใน 3Q64 แล้วก็ตาม และยังเติบโตราว 50%YoY
  • ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึน้ 3% จากการรวมธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์ไว้ในประมาณการ
  • ประมาณการมี Upside จากธุรกิจหลักท่ีปริมาณขายในสมมติฐานของเรายังต่ำกว่าเป้าของบริษัท และธุรกิจแผ่นรองนอนวัวมีโอกาสดีกว่าคาด

Our View

  • เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ NER
  • ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER64 เพียง 6.3 เท่า ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉพาะส่วนของ 2H64 สูงถึง 4.9% (คาด 0.36 บาท/หุ้น)
  • ใช้วิธี SOTP ในการประเมินมูลค่าแยกส่วนระหว่างธุรกิจเดิม (กลางน้ำ) และธุรกิจใหม่ (ปลายน้ำ ) ได้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ท่ี 12.00 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ

คาดกำไรปกติ 4Q64 ทรงตัวสูงได้ต่อ

คาดปริมาณขาย 4Q64 ชะลอลงราว 15–20%QoQ เป็นราว 1.1–1.2 แสนตัน เพราะมีการส่งมอบสินค้าจำนวนมากไปแล้วใน 3Q64 เนื่องจากการสต๊อกของลูกค้าเพื่อรับการคลายตัวของการขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ 4Q64 อาจมีสินค้ารอส่งมอบตามสัญญาชะลอลงบ้าง แต่ด้วยราคาขายต่อชิ้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 5–10%QoQ ทำให้รายได้จะลดลงน้อยกว่าปริมาณขาย และมี GPM ที่สูงขึ้นได้อีกจาก 13.2% ใน 3Q64 จึงคาดว่ากำไรปกติจะทรงตัวได้ในระดับใกล้เคียงกับ 3Q64 ในกรอบ 580– 600 ลบ. เติบโตราว 50%YoY ซึ่งหากเป็นไปตามคาด จะทำให้กำไรปกติทั้งปี 2564 อยู่ที่ 2,079–2,099 ลบ. สูงกว่าประมาณการกำไรของเราที่ 1,907 ลบ. อยู่ราว 10%

ปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น

ธุรกิจแผ่นรองนอนสัตว์อาจมีการส่งมอบ และติดตั้งเครื่องจักรเฟสแรก (กำลังการผลิต 270,000 แผ่นต่อปี) แล้วเสร็จใน 1Q65 แต่ในช่วงแรกจะใช้วิธีการ OEM บางส่วนจากโรงงานพันธมิตรเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศก่อน ตั้งแต่ 1Q65 ราว 10,500 แผ่น และจะทยอยส่งออกด้วยโรงงานตัวเองภายใน 2Q65 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจนี้มี GPM สูงขึ้นมากกว่าการจ้าง OEM เรารวมรายได้จากธุรกิจนี้ในปี 2565 ไว้ที่ 500 ลบ. ตามแผนงานของบริษัทที่มีออเดอร์จากลูกค้ารองรับแล้ว หากสามารถทำได้กว่าเป้าจะเป็น Upside ต่อประมาณการ เรายัง Conservative ต่อ NPM ในปีแรกที่เพียง 12% เทียบกับ Guidance ของบริษัทที่ 20% ได้กำไรจากธุรกิจนี้ในปี 2565 ขั้นต่ำที่ 60ลบ. ทำให้ประมาณการกำไรปกติปี 2565 เพิ่มขึ้นจากเดิม 3% เป็น 2,095 ลบ. (+9.8%YoY) ซึ่งยังมี Upside gain จากธุรกิจหลักที่เรายังคาดการณ์ปริมาณขายที่เพียง 484,664 ตัน เทียบกับเป้าหมายของบริษัทที่ 500,000 ตันในปี 2565 และ ASP คาดที่เพียง 56.3 บาท/ก.ก.

ปรับใช้วิธีประเมินมูลค่าแบบ SOTP คงคำแนะนำ ซื้อ

เราคาดการณ์กำไรจากธุรกิจแผ่นปูนอนสัตว์ที่ 60 ลบ.ในปี 2565 เทียบเท่า EPS ที่ 0.03 บาท (Fully dilution จาก NER-W1) และใช้ PER ในการประเมินมูลค่าที่ 15 เท่าเป็นพรีเม่ียมจากธุรกิจหลักที่ใช้ 10 เท่า เนื่องจากเป็นสินค้าปลายน้ำท่ีมีความเป็น Commodity น้อยกว่า มีอัตรากำไรสูงและมีเสถียรภาพสูงกว่า ได้ราคาเหมาะสมจะธุรกิจนี้ในปี 2565 ที่ 0.50 บาท เมื่อรวมกับราคาเหมาะสมปี 2565 ของธุรกิจยางพาราเดิมที่เราให้ไว้ที่ 11.50 บาท ได้ราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 12.00 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER2565 ต่ำเพียง 6.3 เท่ามี Upside gain 62.2% คงคำแนะนำซื้อ และคาดเงินปันผลสำหรับ 2H64 ที่ 0.36 บาท ให้ผลตอบแทนสูงถึง 4.9%

- Advertisement -