วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,586.64 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด หรือ 0.06% มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือแค่ 34,302.45 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 31.50-31.90 ตลาดรอปัจจัยใหม่ ให้จับตาการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยืนยันจะพิจารณาให้รอบคอบที่สุด “ถ้าทำ เจ็บแล้วจบ มันก็ควรทำ”
5 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด
1.BANPU ปิดที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,805.03 ลบ.
2.BDMS ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,294.28 ลบ.
3.KBANK ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,240.13 ลบ.
4.RCL ปิดที่ 48.50 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,157.54 ลบ.
5.GUNKUL ปิดที่ 4.84 บาท ลดลง -0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,012.14 ลบ.
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาปรับตัวขึ้นได้ดี ก่อนจะมาลดช่วงบวกลง ปัจจัยจากนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ออกมาดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ต่างก็ออกมาดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน
ส่วนปัจจัยในประเทศ ให้จับตาการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้หลัง 14.00 น.เป็นต้นไป จะมีการประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระดับสูง และจำนวนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วย รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ก็มีการใช้บริการที่ค่อนข้างจะเต็มขีดจำกัดแล้ว นักลงทุนจึงลดความเสี่ยงบ้างจากปัจจัยความไม่แน่นอนดังกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอในการล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพมหานคร 7 วัน ว่า อยู่ระหว่างพิจารณาให้รอบคอบที่สุด เพราะต้องปรึกษาข้อมูลกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กระทรวงสาธารณสุข และแพทย์ ถึงความจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจ วันนี้ระบาดตรงไหนปิดคลัสเตอร์ตรงนั้น แต่ต้องช่วยกัน
“ผมกำลังคิด ถ้าทำ เจ็บแล้วจบ มันก็ควรทำ ถ้าเจ็บแล้วไม่จบ มันควรหาวิธีการอื่นไหม ทำให้ที่สุด อยู่ที่พวกเราทุกคนปกป้องระวังตัวเอง ผมไม่ได้โทษใคร แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ค่าเงินบาท นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.77/79 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก
เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.87 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเมื่อเย็นวาน และคาดว่าวันนี้เงินบาทจะเริ่มปรับฐาน หลังจากมีแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ ปัจจัยสำคัญสำหรับวันนี้ไม่มีเรื่องใหม่ ยังติดตามประเด็นการจัดสรรวัคซีน ตลอดจนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดรายวันที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดน้อยลง และคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.50 – 31.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (24 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.24164% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.27831%
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 31.79000 บาท/ดอลลาร์
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 110.85 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1941 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1942 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.898 บาท/ดอลลาร์
– ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร และจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในทิศทางใดคาดว่าในเดือน ก.ค.นี้ จะมีความชัดเจน ซึ่งการปรับประมาณการเศรษฐกิจทุกครั้งจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาและอ้างอิงข้อมูลของทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)หรือ สศช.ด้วย โดยล่าสุด เมื่อเดือน เม.ย. สศช.ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยเติบโตปี 2564 ที่ 2.3% ครั้งนั้นยังไม่ได้รวมการแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 แต่อย่างใด