“เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE)” ขายหุ้นไอพีโอ 27.74 ล้านหุ้น เกลี้ยง สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน หลังสถาบันเข้าถือหุ้นมากถึง 25% มั่นใจเข้าเทรด mai 1 ก.ค.นี้ คาดสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ
นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด(มหาชน) หรือ SECURE เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 27.74 ล้านหุ้นหุ้น ในราคาหุ้นละ 16 บาท ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย.64 ปรากฏว่า กระแสตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม มีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตได้ต่อเนื่อง และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
ขณะเดียวกันมั่นใจว่าหุ้น SECURE จะได้รับการตอบรับที่ดีในวันเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี ในวันที่ 1 ก.ค.64 นี้
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ได้แบ่งจัดสรรให้กับ บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวน 16,461,800 หุ้น คิดเป็น 59.34% ผู้ลงทุนสถาบัน และนิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อจำนวน 6,935,000 หุ้น คิดเป็น 25.00% ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ จำนวน 2,353,500 หุ้น คิดเป็น 8.48% นอกจากนี้ได้จัดสรรให้กับ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทฯ จำนวน 1,990,700 หุ้น คิดเป็น 7.18% รวมทั้งหมด 27,741,000 หุ้น คิดเป็น 100.00%
นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SECURE กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cyber security) และให้บริการที่เกี่ยวข้องที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยมีผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต อาทิ การสร้างศูนย์ให้บริการด้านเทคนิค (Technical Support Center), การลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cyber security,การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้มีความแข็งแกร่ง และมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีด้านการบริหารงานด้วยความโปร่งใส ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและลูกค้า ตลอดจนสร้างการรับรู้ความเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ และบริการมากขึ้น
“มั่นใจว่าธุรกิจของ SECURE ในอนาคตจะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามเทรนด์ของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการป้องกันระบบข้อมูลเพิ่มขึ้น และเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะทำให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยเฉพาะฐานทุนสูงขึ้นสามารถนำมาต่อยอดธุรกิจ รวมทั้งสนับสนุนฐานะการเงินให้แข็งแกร่งตลอดจนมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ได้รับการยอมรับจากคู่ค้า และสิ่งที่สำคัญสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน” นายนักรบ กล่าว