สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ท่ีผ่าน ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม ICT หลังจากท่ีมีความชัดเจนเรื่องของการควบรวมระหว่าง TRUE กับ DTAC ทำให้หุ้นในกลุ่มปรับตัวข้ึนยกแผง จากมุมมองของตลาดว่าจะส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจสื่อสารลดลง ซึ่งส่งผลบวกต่อทั้ง ADVANC, INTUCH รวมไปถึง DIF แต่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงท้ัง PTT, PTTEP, PTTGC ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,649.54 จุด +4.48 จุด +0.27% มูลค่าการซื้อขาย 102,897 ลบ.ต่างชาติ +1,738.67 ลบ. TFEX +21,438 สัญญา ตราสารหน้ี +5,116.58 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ +17.27 จุด +0.05% หลังจากปธน.โจ ไบเดน เสนอช่ือนายเจอโรม พาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด เป็นสมัยที่ 2 แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลบจากการพุ่งขึ้นของ bond yield สหรัฐ

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ +1% ปิดท่ี 76.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับรายงานข่าวว่ากลุ่มโอเปกพลัส อาจปรับแผนการผลิต หากสหรัฐและพันธมิตรระบายน้ำมันออกจากคลังสำรอง

+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย LPR 1 ปีที่ 3.85% และ 5 ปีที่ 4.65% สอดคล้องคาดการณ์

+สหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสอง +0.8%MoM สู่ระดับ 6.34 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 6.20 ล้านยูนิต

+ กทม. เผยมีนทท.เดินทางเข้ามาแล้วเกือบ 6 หมื่นคน หลังเปิดเมือง

+ ธปท.แจงเปิดทางรวมหนี้ข้ามแบงก์ใช้บ้านค้ำประกัน ลดภาระดอกเบี้ย-ค่างวดระยะยาว

+ส่งออกเดือนต.ค. 64 ขยายตัว 17.4% 10M64 ขยายตัว 15.7% ก.พาณิชย์คาดการส่งออกปีน้ีจะเติบโต ราว 15-16% สูงกว่าเป้าเดิมถึง 4 เท่าตัว และสูงเป็นประวัติการณ์

ปัจจัยลบ

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ีลดลง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รวม 5,126 ราย 1,516 ราย มีผู้เสียชีวิต 53 ราย รักษาหาย 7,748 ราย

– สหรัฐส่งรายงานข่าวกรองระบุว่า รัสเซียมีการสะสมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมบุกยูเครนด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง

– ข้อมูลจากรัฐบาลกลางและมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ใน ปี 2564 สูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตท้ังหมดในปี 2563 แล้ว แสดงว่าภัยคุกคามของเชื้อไวรัสยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

– ออสเตรียเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ท่ัวประเทศ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งข้ึนอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม ICT ที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่เริ่ม Rebound ช่วยพยุงตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,657 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • MSCI Global Small Cap Indexes หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN
  • ประเด็นปรับขึ้นค่า Ft จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EA SSP GPSC BGRIM

หุ้นรายงานพิเศษ

TRUE-DTAC ประกาศควบรวม

  • วานนี้ประชุมคณะกรรมการ TRUE และ DTAC มีมติอนุมัติให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท และอนุมัติให้เข้าทำ MOU ระหว่างกันเพื่อบันทึกความประสงค์ของคู่สัญญาในการพิจารณาและศึกษาการรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC เข้าด้วยกัน
  • นอกจากนี้ได้พิจารณากำหนดอัตราการจัดสรรหุ้น (Swap Ratio) สำหรับการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (บริษัทใหม่) Swap Ratio สำหรับการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ท่ีเกิดจากการควบรวมชื่อ Citrine Global ในอัตราส่วนดังน้ี

    1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่ Citrine Global

    1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่ Citrine Global

อัตราการจัดสรรหุ้นข้างต้นกำหนดขึ้นจากสมมุติฐานว่า ภายหลังการควบบริษัทบริษัทใหม่จะมีหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด จำนวน 138,208,403,204 หุ้น โดยมีมูลค่าท่ีตราไว้หุ้นละ 1 บาท อย่างไรก็ตาม จำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วท้ังหมด และมูลค่าท่ีตราไว้ของหุ้นของบริษัทใหม่ภายหลังการควบบริษัทจะมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมของ TRUE และ DTAC พิจารณาอนุมัติตามขั้นตอนของการควบบริษัทต่อไป

  • ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TRUE หรือ DTAC ไม่ประสงค์จะถือหุ้นในบริษัทใหม่สามารถขายหุ้นของตนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจได้ โดย TRUE เสนอซื้อหุ้นละ 5.09 บาทต่อหุ้น DTAC เสนอซื้อหุ้นละ 47.76 บาทต่อหุ้น
  • ความเห็น: เรามีมุมมองเชิงบวกจากดีลดังกล่าว เนื่องจากการควบรวมจะทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการของบริษัทใหม่ลดลง ซึ่งเป็นผลดีต่อผลประกอบการในระยะยาว อย่างไรก็ตาม มติท่ีประชุมดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาความเป็นไปได้ และทำ MOU ระหว่างกัน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) EA (Bloomberg Consensus 72.00 บาท) กางแผนปี 2565 โอกาสโตต่อเนื่อง รับรู้ธุรกิจอีวีเต็มสูบ พร้อมต่อยอด New S-Curve เผยโรงงานแบตเตอรีขนาด 1 กิกะวัตต์จะเปิดเชิงพาณิชย์ 12 ธันวาคมนี้ มองดีมานด์เพิ่มมากขึ้น เล็งขยายไป 4 กิกะวัตต์ ภายใน 2-3 ปี ส่วนปีน้ีผลงานตามเป้า เดินหน้าส่งมอบรถบัสอีวีให้กับลูกค้าเพิ่มพอร์ตรายได้ ส่วนปี 2564 มั่นใจรายได้เติบโตตามเป้า 20% (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) EPG (Bloomberg Consensus 14.95 บาท) ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น หลังหลายประเทศ คลายล็อกดาวน์ ออเดอร์ในมือทยอยส่งมอบได้มากขึ้น ล่าสุดดึงพันธมิตรตุรกีร่วมทุน มั่นใจผลงานปีนี้ ทะลุเป้าโต 12-15% หรือ 1.1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปี 2565-66 โตดีต่อเนื่อง หลังมีออเดอร์จาก ทั้งฐานลูกค้าเดิมและใหม่เข้ามาล้นมือ (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) ATP30 (ราคาเหมาะสม 1.60 บาท) มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 480 ล้านบาท โต 15-20% กาง แผนปีหน้ารายได้พุ่ง 20-25% หลังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โชว์ได้รับงานให้บริการรับส่งพนักงาน PTTGC และ GPSC (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SVT (Bloomberg Consensus 3.10 บาท) ลั่นรายได้ปีนี้โต 11% พร้อมวางเป้าหมายปี 65 รายได้พุ่ง 25% คาดเพิ่มตู้เวนดิ้งแมชชีนเป็น 17,000 ตู้ รุกขยายแฟรนไชส์ ลุ้นเพิ่ม 40 ราย หรือราว 2 พันตู้ ส่วนงบลงทุนวางไว้ 300 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 23 พ.ย.ประชุมครม.กระทรวงการคลังจะเสนอ ยกเว้นภาษีเงินที่ได้จากโครงการส่งเสริม และรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SME ไม่ต่ำกว่า 95%โดยรัฐจ่ายเงินอุดหนุน

  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นำเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 23 พ.ย. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย. จากมาร์กิต

สหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมาร์กิต

  • 24 พ.ย.สหรัฐรายงานจำนวนผขู้อรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค. GDP 3Q64 (ประมาณการครั้งท่ี 2)

ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. สต็อกน้ำมันรายสัป ดาห์จาก EIA

FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย. (เช้าวันท่ี 25 พ.ย.)

- Advertisement -