บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment : Ukraine – Russia Tension Update สถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซีย – ยูเครน ตึงเครียดขึ้น เรามองผลกระทบหลักที่ Fund Flows ย้ายเม็ดเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยง
Key Ideas:
- เม็ดเงินเคลื่อนย้ายจากสินทรัพย์เสี่ยงไปสินทรัพย์ปลอดภัย (พันธบัตร,ทอง) ลดความเสี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนคุณ Trump ที่มีท่าทีไม่สนับสนุนยูเครนเข้ารับตำแหน่ง โดยกรณี Base Case หากสถานการณ์เป็นไปในทิศทางข้างต้น เรามองความเสี่ยงเศรษฐกิจจำกัด
- ผลกระทบกรณีลบ คือ สถานการณ์ขยายวง เรามองมีโอกาสส่งผ่านจุดเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจต่างๆ ดังนี้
1.) ภาคส่งออกไทย:
- การส่งออกไปรัสเซียคิดเป็น 0.38% ของมูลค่าส่งออกรวม
- การส่งออกไปยูเครนคิดเป็น 0.12% ของมูลค่าส่งออกรวม
- การส่งออกไป EU คิดเป็นประมาณ 9% ของมูลค่าส่งออกรวม
- 2.) ภาคท่องเที่ยว:
- นักท่องเที่ยวรัสเซียคิดเป็น 3-4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด
- รายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียประมาณ 2.5% ของรายได้การท่องเที่ยวรวม
3.) การพึ่งพาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์:
ไทยนำเข้าโภคภัณฑ์
- น้ำมันดิบ 85% ของความต้องการใช้
- นำเข้าก๊าซธรรมชาติ 30% ของความต้องการใช้
- นำเข้าข้าวสาลี 90% ของความต้องการใช้
4.) ผลกระทบต่อภาคธุรกิจหลัก:
- ภาคการผลิต (30% ของ GDP):
- ต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น 15-20%
- ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น 10-15%
- ทั้งนี้ กรณีสงครามมีสัญญาณรุกลามมากขึ้น ให้ลดน้ำหนักหุ้นอิงภาคผลิต, กลุ่ม EU Plays เป็นหลักก่อน