บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 2.99 จุด (-0.21%) ปิดที่ระดับ 1,443 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 311 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 173 บริษัท) ดัชนีผันผวนและมีมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นในช่วงท้ายตลาด (ATC Session) มองเป็น Side effect จาก MSCI Rebalance มีผลบังคับโดยใช้ราคาปิดวันนี้ (25 พ.ย.24) Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, OR, BCP) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มค้าปลีก (CRC, BJC, HMPRO, DOHOME)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
- SCGP (-4.58%), BEM (-0.65%), CCET (+2.29%), BH (+0.49%) เป็นผลกระทบจาก MSCI Rebalance effect โดย SCGP ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI Global Standard ในขณะที่ CCET ได้ปรับเข้าคำนวนในดัชนี MSCI Small cap ในขณะที่ BEM และ BH อยู่ในดัชนี MSCI อยู่แล้ว แต่ BEM ถูกปรับน้ำหนักการลงทุนลงราว 5-15 ล้านเหรียญ ส่วน BH ได้รับการปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มราว 20 ล้านเหรียญ
- BCP (-5.38%) ราคาหุ้นปรับลงมากกว่ากลุ่ม -4.6% ส่วนหนึ่งคาดมาจากความกังวลประเด็นอดีตกรรมการ (นาย จำเริญ โพธิยอด) ถูก กลต. ตัดสินความผิดทางแพ่งใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (รายการเมื่อ 22 ธ.ค.2022) จะกระทบต่อ rating ESG (ปัจจุบัน BCP อยู่ระหว่างชี้แจงข้อมูลกับ SET โดย ตลท. หยุดให้ rating ESG ในช่วงการชี้แจง) นักวิเคราะห์ของเรามองราคาหุ้นที่ปรับลงจากความกังวล rating ESG เป็นโอกาสซื้อ คงมุมมองแนวโน้มกำไรฟื้นตัวใน 4Q24-2025F ตามการฟื้นของค่าการกลั่น, การปิดซ่อมลดลง , ปริมาณขายของ OKEA โตตามแหล่งใหม่ และการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า+33% รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังชำระคืนหุ้นกู้ ราคาเป้าหมาย 46.50 บาท
- BTS (+3.41%) เช้านี้เราเลือก BTS เป็น Top pick เป้าหมาย 5.59 บาท มีจิตวิทยาบวกจากข่าว สภา กทม. ไฟเขียวจ่ายหนี้ให้ BTS ก้อนแรกประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท หนุน Cash flow เพิ่ม และช่วยลดภาระหนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีประเด็นให้เก็งกำไรจากนโยบายเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเป็นบวกต่อ BTS โดยตรง (สายสีเขียวเหลือสัญญาสัปทานไม่นานขายออกคุ้มค่ากว่าหากเทียบกับ BEM, สายสีเหลือง, ชมพู ปัจจุบันขาดทุนหากขายออกจะช่วยลดขาดทุนให้กับ BTS)
- PR9 (+2.94%) แนวโน้มกำไร 4Q24 ดีต่อเนื่อง มีโอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการณ์หลังจากประกาศงบ 3Q24 ดีเกินคาด โดยเฉพาะสัดส่วนลูกค้าจากกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 18% ของรายได้รวมสูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 15-16%