KS Daily View 26.11.2024 >>> ติดตามตัวเลขส่งออกไทย จับตาสถานการณ์สงครามตะวันออกกลางและยุโรป SET วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,430 – 1,460 จุด หุ้นแนะนำ PR9, CPALL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ประเมินดัชนีSET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,430 – 1,460 เราคาดการเคลื่อนไหวของดัชนีจะอยู่ในกรอบแคบภายหลังจากรายงานผลประกอบการในไตรมาส 3Q24 เสร็จสิ้น เราแนะนำวันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกของประเทศไทย สำหรับ เดือนตุลาคม โดย ตลาดคาดขยายตัวที่ระดับ 6.3% YoY เร่งตัวขึ้นจาก 1.1% YoY ในเดือนก่อนหน้า รวมถึงติดตามการประชุม ครม.ซึ่งอาจได้เห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยในช่วงปลายปีซึ่งคาดว่าจะมีการคงราคาพลังงานทั้งราคาไฟฟ้าและราคาน้ำมัน เรามองช่วงนี้ตลาดยังคงไร้ปัจจัยใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนตลาดในระยะสั้น แต่คาดว่าจะเห็นการปรับกลยุทธ์ของบริษัทต่างประเทศที่จะมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีจากรัฐบาลใหม่ของUS ที่คาดว่า ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งในเดือน มกราคม ปีหน้า ที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามามากขึ้นในประเทศแถบอาเซียน ทั้งไทยและเวียดนามคาดเป็นบวกระยะสั้นต่อกลุ่มนิคม ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่องคือผลกระทบของสงครามทั้งในตะวันออกกลางและยุโรปที่ส่อแว่วรุนแรงมากขึ้นหลังจากนี้

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น PR9 และ CPALL

ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน

1. Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลงสู่ระดับ 85.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 86.5 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 86.0ได้รับผลกระทบจากความวิตกที่ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการดำเนินนโยบายการค้าของที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

2. นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Headline PCE ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี Core PCE ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนก.ย.

3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนด้วยการตรึงค่าไฟงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย.67) ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยไปอีก 4เดือน รวมทั้งจะตรึงราคาน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าไฟหากสามารถลดได้จากอัตราเดิมกระทรวงพลังงานก็จะพยายามปรับลดลง แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงใช้หนี้ค้างสะสมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บมจ.ปตท. (PTT) ด้วย

4. นาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนที่ระดับ 2%ในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หลังจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงในเดือนก.ย. ขณะที่ทางการจีนยังคงใช้ความระมัดระวังในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นด้านการเงิน

5. ไมเคิล เฮอร์ซอก เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า อิสราเอลใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนแล้ว โดยอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

Daily pick

PR9: ราคาพื้นฐานที่ 28.50 บาท 

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PR9 ต่อผลประกอบการใน 4Q24 ที่มีโอกาสสร้างรายได้เติบโตqoq ได้จากทั้งคนไข้ต่างชาติที่เข้ามารับบริการมากขึ้นและส่วนของการให้บริการตรวจสุขภาพใน 4Q24 อีกทั้งเรามองว่าบริษัทมีโอกาสพัฒนา GPM ได้ดีขึ้นกว่าใน 3Q24 จาก Economies of scale ที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นช้ากว่ารายได้ และส่วนของรายได้จากคนไข้ต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าคนไทย นอกจากนี้ PR9 ยังได้จ่ายปันผลพิเศษครั้งแรกในเดือนธันวาคมนี้ เราคาด PR9 มีโอกาสปันผลมากขึ้นถัดจากนี้เป็นต้นไป

CPALL: ราคาพื้นฐาน 80 บาท 

เรามีมุมมองเชิงบวก CPALL ในแง่ความแข็งแกร่งของธุรกิจ 7-11 และความสามารถในการปรับตัวได้ดีจากการที่บริษัทต้องการเป็นfood and beverage destination ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มอาหารเติบโตได้อย่างดีคือ 15%CAGR นับจากปี 2021 และได้รับผลบวกของ ticket size ที่ใหญ่ขึ้นจากการขายออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนา GPM ได้จากการเน้นสินค้า high margin มากขึ้นเช่น อาหารพร้อมรับประทาน สินค้า health and beauty เป็นต้น นอกจากนี้เรายังชอบ CPALL เนื่องจากมี valuation ที่ไม่แพงและมีโอกาสได้รับ synergy benefit จากการ amalgamation ของ Lotus เช่นกัน เนื่องจาก CPALL ถือ CPAXT ที่ 60%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกจากกระทรวงพาณิชย์ (TH MOC Export) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 6.3% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +1.1% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH MOC Export) ตลาดคาดการณ์ที่ 6.8% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +9.9% YoY ในส่วนของสหรัฐมีการรายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New home sales) เดือน ต.ค. โดยตลาดคาดที่ 7.25 แสนหลังปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.38 แสนหลัง ต่อด้วยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minutes)
  • วันพุธ ติดตามตัวเลข ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.7% YoY ต่อด้วย ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ของสหรัฐเดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4%MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.7% MoM และปิดท้ายด้วย การรายงานของ GDP ใน 3Q24 ของสหรัฐครั้งที่สอง ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
  • วันพฤหัสฯ ติดตามการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ครั้งสุดท้ายของปีนี้ ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.25% และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ยูโรโซน เดือน พ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -13 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออก (Export) ของ ธปท. เดือน ต.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.1% YoY และตัวเลขนำเข้า (Import) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.5% YoY
- Advertisement -