SVT ประกาศแผนธุรกิจปี 65 หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ลุยขยายฐานเต็มสูบ รุกเพิ่มจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็น 1.7 หมื่นเครื่อง พร้อมปรับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบธรรมดาให้เป็นแบบสมาร์ทเพิ่มเป็น 7,500 เครื่อง เดินหน้าขยายสาขาให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งภาคเหนือ อีสาน เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของสินค้า ผู้ผลิตสินค้าเอง กลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง รวมทั้งลูกค้ารายย่อย อาทิ โรงแรม โรงเรียน โรงพยาบาล ทั้งมีแผนเปิดธุรกิจใหม่ อาทิ แฟรนไชส์ ระบบเช่า และโฆษณาในเครื่องจำหน่ายสินค้า มั่นใจดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้าที่ระดับ 25% 

 

นางอาภัสรา ภาณุพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ผู้นำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (เวนดิ้ง แมชชีน :Vending Machine) ภายใต้เครื่องหมายการค้า SUNVENDING เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจใน 2565 หลังจากที่บริษัทได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยวางแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนดังกล่าวไปลงทุนใน 2 ส่วนหลักคือ ใช้ในการจัดหาเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพื่อขยายการติดตั้งให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ  รวมทั้งใช้ในการพัฒนาระบบและจัดหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบสมาร์ท

ทั้งนี้ ในปี 2565  บริษัทมีแผนขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มเป็น 17,000 เครื่อง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 เครื่อง จากเดิมในปี 2564 มีจำนวนเครื่องทั้งหมด 14,600  เครื่อง พร้อมปรับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติแบบธรรมดาให้เป็นแบบสมาร์ทเพิ่มเป็น 7,500 เครื่อง

สำหรับการขยายจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในปี 2565  จะเริ่มขยายตั้งแต่ต้นปี เริ่มที่จังหวัดลำพูนเป็นแห่งแรก เจาะกลุ่มเป็นหมายที่เป็นภาคอุตสาหกรรม และจังหวัดอุดรธานี เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นโรงงาน ส่วนภาคใต้ จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566

ส่วนของการทำระบบแฟรนไชส์ คาดว่าจะเริ่มเปิดโมเดล หรือสาขาต้นแบบก่อน ภายในสิ้นปี 2564  เบื้องต้นมีลูกค้าสนใจทำระบบแฟรนไชส์แล้วจำนวน 1-2 ราย โดยเป็นโครงการนำร่อง  ก่อนที่จะมีการขยายธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการในปี 2565

ขณะที่เป้าหมายหลังจากที่รุกทำตลาดอย่างต่อเนื่องในปี 2565 บริษัทวางเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 25% โดยมีปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโตคือ ความเชื่อมั่นเรื่องวัคซีน รวมถึงการเดินหน้าขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่ครอบคลุมมากขึ้น และการเปิดธุรกิจใหม่ อาทิ แฟรนไชส์, ระบบเช่า และโฆษณาในเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และการรุกขายตู้มากขึ้น ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของสินค้า หรือผู้ผลิตสินค้าเอง, กลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง และลูกค้ารายย่อย อาทิ โรงแรม, โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น

**********************************

- Advertisement -