บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 7.85 จุด (-0.55%) ปิดที่ระดับ 1,430 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.66 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 324 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 161 บริษัท) ปัจจัยกดดันยังเป็นเรื่องเดิมกังวลสงครามการค้าหลัง ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีจีน แคนนาดา และ เม็กซิโก โดย Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP), ค้าปลีก (CPALL, CRC) และกลุ่มอสังหาฯ (AP, LH) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มขนส่ง (BTS, AOT) และกลุ่มไฟแนนซ์ (JMT, KTC, TIDLOR)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
- BGRIM (-2.38%), GPSC (-2.29%), GULF (-0.40%) ปรับลงจากข่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว. พลังงานสั่งระงับประมูลและทบทวนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน Feed-in Tariff เฟส 2 กำลังการผลิต 3,600 เมกะวัตต์
- PTT (-1.52%), PTTEP (-1.17%) นักลงทุนขายปรับพอร์ตกังวลราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องจากข่าวอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบัลเลาะซ์ในเลบานอน ทำให้ภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาดน้ำมันคลี่คลายลง
- BCP (-4.8%) ราคาหุ้นปรับลงมากกว่ากลุ่ม -4.8% ส่วนหนึ่งคาดมาจากความกังวลประเด็นอดีตกรรมการ (นาย จำเริญ โพธิยอด) ถูก กลต. ตัดสินความผิดทางแพ่งใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (รายการเมื่อ 22 ธ.ค.2022) จะกระทบต่อ rating ESG ปัจจุบัน BCP อยู่ระหว่างชี้แจงข้อมูลกับ SET โดยตลาดหลักทรัพย์หยุดให้ rating ESG ในช่วงการชี้แจง
- BTS (+3.77%) หุ้น Top pick ของเราวันนี้ นักลงทุนคาดหวังบวก สภา กทม. ไฟเขียวจ่ายหนี้ให้ BTS ก้อนแรกประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท หนุน Cash flow เพิ่ม นำไปจ่ายหนี้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายในงบกำไรขาดทุน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเก็งกำไรจากนโยบายเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเป็นบวกต่อ BTS โดยตรง (สายสีเขียวเหลือสัญญาสัปทานไม่นานขายออกคุ้มค่ากว่าหากเทียบกับ BEM, สายสีเหลือง, ชมพู ปัจจุบันขาดทุนหากขายออกจะช่วยลดขาดทุนให้กับ BTS) อยู่ในธีม Entertainment complex โดยกลุ่ม BTS+BA+STECON เป็นหนึ่งตัวเต็งได้กาสิโนไลเซนส์จากนำสิทธิ์พัฒนาเมืองการบินอู่ตะเภาเข้าเสนอ