Daily View

เมื่อคืนที่ผ่านมาทางสหรัฐได้ประกาศระบายออกจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ (SPR) จำนวน 50 ล้านบาร์เรลเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาด ขณะเดียวกันยังได้เชิญชวนประเทศอื่นอาทิ อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ในการปล่อยน้ำมันดิบสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ WTI , BRT กลับปรับตัวขึ้น 2.3%, 3.3% ตามลำดับ เราเชื่อว่าเกิดจาก (1) มีกระแสข่าวเกิดขึ้นว่าแผนการปล่อยน้ำมันของสหรัฐอาจทำให้กลุ่ม OPEC+ ไม่พอใจ และเลิกปรับเพิ่มกำลังการผลิต (2) ปริมาณน้ำมันดิบที่สหรัฐปล่อยเพิ่มออกมาราว 50 ล้านบาร์เรลนั้น เพียงพอต่อการบริโภคในสหรัฐเพียง 2.5 วันเท่านั้น ดังนั้น จากนี้ต้องติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับท่าทีของ OPEC+ รวมไปถึงการประชุมครั้งถัดไป มองหุ้นได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) แต่เสียประโยชน์จะเป็นกลุ่มที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน อาทิ ผลิตยางมะตอย (TASCO) ขนส่ง (AAV BA) รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) ปั๊มน้ามัน (PTG) ส่วนเมื่อคืนสหรัฐ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ (PMI) ออกมาในทิศทางกลางๆ โดย PMI ภาคผลิตอยู่ที่ 59.1 ใกล้เคียงตลาดคาด ส่วนภาคบริการอยู่ที่ 57 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 59.1 ด้านในประเทศยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ ทำให้เราคาดว่า SET INDEX วันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในกรอบ 1647–1655 รับแรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ปิโตรเคมี (PTTGC) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ส่วนทยอยสะสมยังเน้น Domestic Play ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL ILM) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ร้านอาหาร (M MINT) เครื่องดื่ม (TACC) สื่อนอกบ้าน (VGI)

Stock Pick

PTTEP (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 146 บาท) คาดกำไรปกติ 4Q21 ปรับดีขึ้น YoY และ QoQ ด้วยแรงหนุนจากยอดขาย (+12% YoY, +2% QoQ) และราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้น (+21%YoY, +3%QoQ)

SPRC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 11.30 บาท) คาดว่า GRM จะปรับดีขึ้นต่อเนื่องใน 4Q21 ด้วยแรงหนุนจากส่วนต่างราคาเบนซิน ดีเซล น้ำมันอากาศยานที่แข็งแกร่ง เราเลือก SPRC เป็น 1 ในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงานสำหรับช่วง 4Q21-2022

- Advertisement -