สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนข้ึนเล็กน้อยในช่วงเช้า ก่อนท่ีจะปรับตัวลงในภาคบ่าย จากแรงขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่มที่ปรับตัวข้ึนมาในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ KBANK, SCB, BBL, BAY และ CPALL ส่วนหุ้นท่ีสามารถปรับตัวขึ้นได้มาจากปัจจัยเฉพาะตัว เช่น ADVANC, BANPU, EA ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,646.42 จุด -3.12 จุด -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 90,228 ลบ.ต่างชาติ -1,338.26 ลบ. TFEX +4,039 สัญญา ตราสารหน้ี +16.97 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 194.55 จุด +0.55% ได้แรงหนุนจากการพุ่งข้ึนของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% ทิศทาง bond yield ที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัว แต่กลับสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และฉุดดัชนี Nasdaq ปิดลบ

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 1.75 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัส อาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิต หลังจากที่สหรัฐและพันธมิตรประกาศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรอง

+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต- บริการเบื้องต้นของยูโรโซนเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 55.8 เมื่อเทียบกับระดับของเดือนต.ค.ท่ี 54.2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 53.2

+ ครม. เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประเทศหุ้นส่วนด้านพลังงาน ภายใต้ยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง (The Belt And Road Energy Partnership: BREP) ของสนง.พลังงานแห่งชาติจีน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

+ ครม.ผ่านงบประมาณจัดซื้อวัคซีนโควิด 30 ล้านโดส จากไฟเซอร์ส่งมอบ Q1-Q3/65

ปัจจัยลบ

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 5,857 ราย ATK 1,860 ราย มีผู้เสียชีวิต 55 ราย รักษาหาย 7,318ราย

– IMF ระบุถึงความเสี่ยงในการใช้สกุลเงินบิตคอยน์ โดยแนะนำให้เอลซัลวาดอร์หลีกเลี่ยงใช้สกุลเงินดังกล่าวชำระหน้ีตามกฎหมาย

– รัฐบาลจีนระบุว่า บริษัทไต้หวันที่ดำเนินงานในประเทศจีนจำเป็นต้องแยกตนเองออกจากกลุ่มที่ สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราช หลังจากจีนลงโทษบริษัทขนาดใหญ่แห่งหน่ึงของไต้หวันอย่างหนักฐานละเมิดกฎเกณฑ์ทางธุรกิจ

– ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 57.6 ในเดือนต.ค.

-มุมมองจากเครดิตบูโรระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยตามท่ีสภาพัฒน์รายงานมี 14.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89.3% ต่อ GDP โดยมีจำนวนท่ีเป็น NPL สูงถึง 8.1% หรือ 9.7 แสนล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวขึ้นแบบ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI เริ่ม Rebound จากการคาดการณ์ท่ีว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจระงับแผนเพิ่มกำลังการผลิต ประกอบกับแรงฟื้นตัวของหุ้นของหุ้นกลุ่ม Mid-Small ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,657 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU M ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
  • MSCI Global Small Cap Indexes มีผล 30 พ.ย. หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN
  • ประเด็นปรับข้ึนค่า Ft จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า EA SSP GPSC BGRIM

หุ้นรายงานพิเศษ

SMD (ซื้อ ราคาเหมาะสม 20.40)

  • ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 64 สู่ 1.5-1.6 พันลบ. เติบโต 127-142%YoY โดย 9M64 มีรายได้ 1.19 พันลบ. และมีงานในมือรอรับรู้อีก 300 ลบ.ใน 4Q64 และตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ 1.8 พันลบ. เติบโต 15%YoY คาดได้แรงหนุนจาก 1) จำหน่าย ATK 2) การให้เช่าเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาล และ 3) อัตราการครองเตียงของ Sleep lab เพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาด COVID-19 เริ่มลดลง
  • ความเห็น เรามุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 64 ที่จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะท่ีกำไรงวด 9M64 สูงกว่าประมาณการเดิมท้ังปี 64 ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้และกำไรปี 64 เป็น 1,454 ล้านบาท และ 308 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 120% และ 297% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ปี 65 ยังคงต้องติดตามเป้ารายได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะเป็นการเติบโตจากฐานสูงในปี 64 ทั้งนี้ราคาหุ้นยังซื้อขายท่ี PE ต่ำเพียง 9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 34.7 เท่า จึงเป็นจังหวะซื้อสะสม

หุ้นมีข่าว

(+) PTTGC (Bloomberg Consensus 75.00 บาท) ลั่นดีลออลเน็กซ์เสร็จสิ้นปลายปีน้ี ปีหน้ารับรู้รายได้เต็มปี เดินหน้าขยายลงทุนสู่สินค้าไฮแวลู เผยปีหน้ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7% คาดผลงานแนวโน้มดีต่อเนื่อง ส่วนการซื้อ VNT คาดว่าจะดำเนินการได้ปลายปีน้ี และจะเร่ิมรับรู้การดำเนินงานหลังกุมภาพันธ์ 2565 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SEAFCO (Bloomberg Consensus 5.14 บาท) ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 ไว้ที่ 1,500-1,600 ล้านบาท เดินหน้าประมูลงานใหม่เพิ่มมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เติมพอร์ตงานในมือ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลุ้นงานเมกะโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า แววโค้งท้ายผลงานกลับมาดีขึ้น เชื่อหากมีงานออกมาจะช่วยผลักดันตลาดให้มีความคึกคักมากขึ้น (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) RBF (Bloomberg Consensus 22.80 บาท) ข่าวดี 2 เด้ง! เตรียมส่งมอบสารสกัด CBD-THC ให้ลูกค้ามหาชนยักษ์ใหญ่ ได้ฤกษ์เก็บเกี่ยวผลผลิตกัญชงปลาย ธ.ค.นี้ และทยอยรับรู้รายได้ธุรกิจกัญชงตั้งแต่ไตรมาส 2/65 พร้อมขานรับนโยบายปลูก-สกัดกัญชาสำหรับภาคเอกชน หลังการปรับแก้กฎหมายเพิ่มเติมในปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RS (Bloomberg Consensus 19.90 บาท) “อาร์เอส”เปิดตัวแบรนด์ “Lifemate” ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง นำร่องอาหารแห้งชนิดเม็ดสำหรับสุนัข-แมว วางตลาดวันที่ 1 ธ.ค.นี้ เล็งเปิดตัวอาหารเปียก อาหารขบเคี้ยว อาหารว่างในไตรมาส 2-3 ปีหน้า ตั้งเป้ายอดขายปี 65 พุ่ง 320 ล้านบาท โกยมาร์เก็ตแชร์ 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 26 พ.ย.ประชุมศบค.

  • สัปดาห์ที่ 4 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นำเข้า สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 24 พ.ย.สหรัฐรายงานจำนวนผขู้อรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ต.ค. GDP 3Q64 (ประมาณการครั้งท่ี 2)

ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA

FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย. (เช้าวันท่ี 25 พ.ย.)

  • 29 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ต.ค. ดัชนีการผลิตเดือน พ.ย. จากเฟดดัลลัส
  • 30 พ.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต -ภาคบริการเดือน พ.ย. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน

อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือน พ.ย.

สหรัฐรายงานดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.จาก Conference Board

- Advertisement -