บล.ไอร่า

CK ช.การช่าง คาดเร่งเปิดประมูลโครงการต่างๆ หลังล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา คาด CK มีโอกาสได้รับงานเพิ่ม ช่วยให้ Backlog กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี’65

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ (23/11/64) :

  • อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญางานก่อสร้าง Double Track เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญา 2 งาว-เชียงราย และสัญญา 3 เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 26,900 ล้านบาท และ 19,390 ล้านบาท ซึ่ง JV กับ STEC คาดภายในสิ้นปีนี้ คาดช่วยให้ Backlog เพิ่มขึ้นจากล่าสุดที่ 25,672 ล้านบาท โดย Backlog ดังกล่าวรวมงานที่ได้รับเพิ่ม YTD จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมเพียง 5,155 ล้านบาท หลังการเปิดประมูลงานใหม่ๆ ท่ีผ่านมายังมีความล่าช้า
  • คาด Backlog มีโอกาสโดดเด่นขึ้นอีกคร้ังในปี’65 ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ กลับมาเป็นปกติ คาดเร่งเปืดประมูลโครงการต่างๆ เช่น (1) สีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่างานก่อสร้าง 78,713 ล้านบาท ทั้งหมด 6 สัญญา แบ่งเป็น 4 สัญญา ใต้ดิน 1 สัญญา ยกระดับ และ 1 สัญญางานวางราง กำหนดยื่นซอง 27/12/64 โดย CK คาดได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา (2) คลองระบายน้ำมหาสวัสดิ์ มูลค่า 6,526 ล้านบาท กำหนดยื่นซอง 15/12/64 และ (3) สีส้มตะวันตก ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ เป็นการลงทุน PPP ภายใต้เกณฑ์ใหม่ (ราคา 70 เทคนิค 30) โดยมีมูลค่างานก่อสร้าง 127,012 ล้านบาท ซึ่ง BEM เข้าประมูล และ CK รับงานก่อสร้าง รวมถึงโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง คาดมูลค่าก่อสร้างใกล้เคียงโครงการไซยะบุรี ~85,000 ล้านบาท หาก CKP สามารถลงนาม EPC โครงการดังกล่าว คาดทำให้ Backlog ของ CK เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 100,000 ล้านบาท อีกครั้ง พร้อมรับรู้รายได้งานในส่วนที่ทำล่วงหน้า มูลค่า ~2,000 ล้านบาท
  • แนวโน้มรายได้งานก่อสร้าง 4Q/64 ดีขึ้น qoq อยู่ที่ ~3,300 ล้านบาท หลังสถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น แรงงานกลับมาเกือบ 100% สามารถเร่งงานก่อสร้างได้ คาด Gross Profit Margin เฉลี่ย 8% โดยไม่มีรายได้เงินปันผลเหมือน 3Q/64 แต่คาดยังได้รับการชดเชยเข้ามาบ้างจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมทุน โดยเฉพาะ CKP ที่คาดดีต่อเนื่อง และภายใต้ Backlog ที่มีอยู่ CK คาดรายได้งานก่อสร้างปี’64–65 ทรงตัว อยู่ที่ ~12,000 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าเป็นระดับ Conservative โดยคาดมี Upside จากโอกาสที่ได้รับงานเพิ่ม เช่น สายสีม่วงใต้ และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่สามารถรับรู้รายได้ ~2,000 ล้านบาท ได้ทันทีเมื่อลงนามสัญญา
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 24.50 บาท อิง PBV 1.5X ยังแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะกลาง – ยาว โดย CK ยังมีจุดเด่นจากบริษัทที่ร่วมลงทุนทั้งงานก่อสร้าง เงินปันผล และกำไรจากการขายเงินลงทุน ช่วยชดเชยความผันผวนจากงานรับเหมาก่อสร้าง
- Advertisement -