ANI มุ่งดันปริมาณขนส่งสินค้าทางอากาศปี 67 พุ่งสู่ 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้น 20% จากเจรจาสายการบินพันธมิตรเพิ่มระวางสินค้าเส้นทางยุโรป-สหรัฐฯ ดันกำไรโตต่อเนื่อง

บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ ANI คาดการณ์วอลุ่มขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งปี 2567 พุ่งสูง 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% และมุ่งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2567 จากการเจรจาสายการบินพันธมิตรเพิ่มระวางสินค้าเส้นทางยุโรปและสหรัฐฯ เพิ่มประสิทธิภาพบริหารค่าใช้จ่าย และใช้เครื่องมือทางการเงินลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เผยปริมาณขนส่งสินค้าเดือนตุลาคมเป็นไปตามคาด มองนโยบายสงครามการค้าของ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผลเชิงบวกต่อธุรกิจ จากกการใช้ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เป็นฮับของการส่งออกสินค้าทดแทนจีน

นางสาว บี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินหรือ Cargo General Sales Agent (GSA) เปิดเผยว่า จากภาพรวมต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศนับจากต้นปีถึงปัจจุบันที่อยู่ระหว่างที่ดี ประกอบกับไตรมาสสุดท้ายเป็นไฮซีซันของธุรกิจที่จะมีความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อสต๊อกสินค้าก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ จึงคาดว่าตลอดทั้งปี 2567 บริษัทฯ จะมีปริมาณ (วอลุ่ม) การขนส่งสินค้าทางอากาศรวม 1.35 แสนตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อน โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณการขนส่งแล้วเกือบ 1 แสนตัน เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าทางอากาศจากไทย จีน ฮ่องกง เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกหลักในภูมิภาคนี้

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางกลยุทธ์เพิ่มความสามารถในการทำกำไรในไตรมาส 4/2567 อย่างต่อเนื่อง จากไตรมาสก่อนหน้า โดยการเจรจากับสายการบินพันธมิตรเพื่อเพิ่มระวางสินค้าในเส้นทางยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเส้นทางระยะไกลและได้รับผลตอบแทนที่ดี ตลอดจนอานิสงส์ของไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยสถานการณ์เดือนตุลาคมที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ คาดว่าจากความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น และจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ตลอดจนการนำเครื่องมือทางการเงินมาเพื่อลดความเสี่ยงด้านผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจากรายการภายในกลุ่ม จะเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4 นี้ นอกจากนี้ จากสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่าลง ถือเป็นผลบวกต่อผลกำไรของบริษัทฯ

ขณะที่การดำเนินงานในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศประมาณ 1.2 หมื่นตัน จากดีมานด์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนอินเดียซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ ขยายธุรกิจให้บริการตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินถือว่ามีปริมาณการขนส่งอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจมีศักยภาพเติบโตสูงและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกสินค้ารายใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย โดยจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาส นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากค่าขนส่งทางอากาศที่อยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีกในช่วงที่เหลือของปีนี้

“บริษัทฯ วางแผนขยายสัญญา GSA กับสายการบินอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับสัญญาใหม่อีกไม่น้อยกว่า 2 สัญญาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จากปัจจุบันที่ให้บริการ GSA แก่สายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 9 ประเทศและเขตบริหารพิเศษ เช่น ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีน มาเลเซีย อินเดีย ส่วนประเด็นการสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี มองว่าจะเป็นผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ เนื่องจากสหรัฐฯ คงต้องมุ่งทำการค้ากับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียและอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยที่ได้รับเข้าเป็น 1 ใน 13 พันธมิตรของ BRICS ขณะที่จีนอาจปรับเปลี่ยนมาใช้ประเทศอื่นๆ เป็นฮับของการขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง” นางสาว บี เล็ง โก๊ะ กล่าว

 

- Advertisement -