หุ้น IVF เปิดเทรดวันแรกที่ 2.70 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ -12.90% จากราคาขาย IPO ที่ 3.10 บาท/หุ้น

หุ้น IVF เปิดเทรดวันแรกที่ 2.70 บาท ต่ำกว่าราคาขาย IPO 12.90% บริษัทประกอบธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร 9 เดือนแรกปี 67 รายได้ 85 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.5 ล้านบาท ราคาเหมาะสม Consensus 4.12-5.50 บาท ด้านผู้บริหารเผยเข้าตลาด mai สร้างความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และตอบสนองความต้องการลูกค้าทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ

นางสาวเกศิณี กุลดิลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF) เปิดเผยว่า “การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ที่จะช่วยเสริมศักยภาพทางธุรกิจและขยายโอกาสในการเติบโตในระยะยาว เงินระดมทุนจำนวน 304 ล้านบาท จะนำไปใช้ในการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น ธุรกิจดูแลสุขภาพ (Wellness) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและโอกาสสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีแผนขยายบริการเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าหลักที่กว่า 80-90% เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการบริการด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากสูง โดย IVF ให้บริการ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วางแผนการรักษา ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น ICSI และ IUI พร้อมทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับธุรกิจของ IVF แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก (Fertility) ประกอบด้วยการให้บริการ รักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) และการให้บริการอื่น ๆ เช่น การตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการฝั่งตัว (PGT) การรักษาภาวะการเจริญพันธุ์ เป็นต้น 2. การให้บริการด้านเวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟู เป็นศาสตร์การดูแลด้านสุขภาพ โดยรวม (Wellness) ช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของสุขภาพและปรับสมดุลให้กับร่างกายเพื่อให้กลไกต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2566

ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.10 บาท บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 220 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 403 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 1,364 ล้านบาท อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 44.93 เท่า ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโต

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ mai สำนักงาน ก.ล.ต. ที่ปรึกษาทางการเงิน และพันธมิตรทุกฝ่ายที่ร่วมสนับสนุนให้การระดมทุนและการเข้าจดทะเบียนครั้งนี้สำเร็จลุล่วง โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน สู่การเป็น ‘ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากด้วยมาตรฐานสากลระดับแนวหน้าของประเทศไทยและเอเชีย’ รองรับแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการรักษาภาวะมีบุตรยากและธุรกิจ Wellness ในอนาคต ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนับสนุนศักยภาพในการขยายธุรกิจแล้ว ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวบล. โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ๆว่า บริษัท อินสไปร์ไอวีเอฟ (IVF) จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 29.55% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 44.9เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่ GFC 18.1X, SAFE 19.1 และ mai 43.1x วัตถุประสงค์การระดมทุน 1) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายสาขา 2) เพื่อใช้เป็นเงินลงทุน ในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจให้บริการดูแลสุขภาพ (wellness) เป็นต้น 3) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน พร้อมให้ราคาเหมาะสม Consensus 4.12-5.50 บาท

IVF ประกอบธุรกิจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคู่สมรส และการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ด้วยวิธีต่างๆ ให้เหมาะสม กับแต่ละบุคคล เช่น ICSI และ IUI เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ของคู่สมรส

บริษัทมีรายได้ในช่วงปี 2564-2566 และงวด 9 เดือนปี 2567 เท่ากับ 12 ล้านบาท 65 ล้านบาท 122 ล้านบาท และ 85 ล้านบาท ตามลำดับ จากจำนวนรอบการเก็บไข่ (OPU) และรายได้เฉลี่ยที่ได้รับลดลง มีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทส่งเสริมการตลาดในกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนของลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าคนไทยจะมีอัตราค่าบริการต่ำกว่า อัตราค่าบริการที่บริษัทเรียกเก็บจากลูกค้าต่างชาติ %GPM เท่ากับ -21.4% 49.0% 65.4% และ 59.4% ตามลำดับ ช่วง 9 เดือนปี 2567 อัตรากำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากรายได้จากการให้บริการของบริษัทลดลงในขณะที่บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากค่าเสื่อมราคาและค่าตอบแทนบุคลากร ส่งผลให้ช่วงปี 2564-2566 และงวด 9 เดือนปี 2567 มีกำไรสุทธิเท่ากับ -5 ล้านบาท 10 ล้านบาท 41 ล้านบาท และ 16.7 ล้านบาท

- Advertisement -