บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 21.42 จุด (-1.53%) ปิดที่ระดับ 1,378 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 415 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 102 บริษัท) ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศกังวลดอกเบี้ยทรงตัวสูงเป็นเวลานานหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีหน้าจาก 4 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง โดยมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH, TRUE), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO), โรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ อิเล็กทรอนิกส์ (KCE, HANA)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
MTC (-5.58%), SAWAD (-4.38%), TIDLOR (-6.25%) กังวลดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงนาน (FED Dot plot ลดลงจาก 4 เหลือ 2 ครั้ง, แบงก์ชาติคงดอกเบี้ย) กระทบต้นทุนเงินทุน ในขณะเดียวกัน US bond yield เร่งตัวขึ้นกระทบจิตวิทยาลงทุน
GULF (-2.49%), BGRIM (-1.57%), GPSC (-1.23%) มีปัจจัยลบเดียวกับกลุ่มไฟแนนซ์ (กังวลดอกเบี้ยสูงนาน, US bond yield พุ่ง) และค่าเงินบาทอ่อนค่ากระทบกลุ่มโรงไฟฟ้าเนื่องจากมีหนี้เป็นสกุลดอลลาร์สูง
ADVANC (-2.84%), INTUCH (-2.84%) ตลาดปรับสถานะ จากเดิมเป็นหุ้น high yield ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง แต่ FED ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยช้าทำให้นักลงทุนเข้าปรับสถานะและลดน้ำหนักการลงทุนเพื่อสะท้อนทิศทางดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไป
TRUE (-3.64%) มี Overhang จากข่าวศาลปกครองสูงสุดยกคำร้องของ TRUE ยื่นขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ส่งผลให้ TRUE จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับ NT ราว 1.7 พันล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย
KCE (+9.68%), HANA (+5.19%) มี Technical rebound จากที่ราคาร่วงแรง อยู่ในโซน Oversold นักลงทุนมองราคาลดลงสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปแล้ว ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นจิตวิทยาบวกให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร