ปรากฏการณ์หุ้นกู้ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA กระแสดีเกินต้าน! หลังประกาศแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะสั้นครั้งที่ 1/67 อายุ 122 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.86% ต่อปี กำหนดวันออกหุ้นกู้เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย ขายหมดภายใน 2 นาที  พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังกับธุรกิจขายฝาก Gold Financing Business แบรนด์ทองมาเงินไปในปีหน้า หลังปีนี้ผลงานทำได้ทะลุเป้า

ด้าน นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดขายทองในประเทศไทยมี Market size อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท และใหญ่ขึ้นทุกปี เป็นโอกาสของบริษัทขยายการเติบโตในตลาดนี้อีกมาก  ในขณะที่ตลาดขายฝากทอง Gold Financing มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทมีพอร์ตทองมาเงินไป 4 พันกว่าล้านบาท สามารถสร้างการเติบโต 60-70% อย่างแข็งแรงต่อเนื่องทุกปี และไม่ค่อยมีการขยายตัวของผู้เล่นรายใหม่ ดังนั้น ตลาดสินเชื่อทองจึงเป็นตลาดที่ AURA โฟกัส และคาดจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญได้ในอนาคต ด้วยจุดแข็งในความเชี่ยวชาญของบริษัท เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น และไว้วางใจ ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี รวมทั้ง ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service)

สำหรับหุ้นกู้ AURA เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 

ขณะที่ บทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 67 ระบุถึง ประเด็นการออกbond ของ AURA ล่าสุด ช่วยบรรเทาความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินทุนในบริษัท ขณะเดียวกันแผนการแยกธุรกิจค้าปลีกและสินเชื่อจะช่วยปลดล็อกศักยภาพในการระดมทุนและเร่งการเติบโต  ในมุมมองของนักวิเคราะห์มอง AURA  อยู่ในตำแหน่งการแข่งขันที่เหนือกว่าที่จะขยายธุรกิจขายฝากทองคำได้หลายประการ ประการแรก Funding Cost ของ AURA มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่งโดยตรง รวมถึงร้านทองและร้านจำนำอื่นๆ ประการที่สอง อัตราการเติบโตของสินเชื่อจากธนาคารและสถาบันการเงินนอกธนาคารที่ต่ำ บ่งชี้ถึงการคุมเข้มเครดิต ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องหาทางเลือกการเงินอื่นๆ ในที่สุด ต้นทุนการเงินของ AURA จะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น เมื่อ AURA วางแผนที่จะออก bond ครั้งแรก ภายใต้การจัดอันดับเครดิต BBB จาก TRIS นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของนโยบายการเงินล่าสุด และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จะทำให้ AURA มีความยืดหยุ่นในการขยายพอร์ตสินเชื่อทองคำได้มากขึ้น

ด้าน บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 67 ระบุถึง AURA ธุรกิจขายฝาก จะดีขึ้นต่อเนื่องจากพอร์ตลูกหนี้ขายฝากที่จะเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาท จาก 4Q23/3Q24 ที่ 2.7/4.2 พันล้านบาท จากการขยายสาขาทองมาเงินไป ณ 3Q24 อยู่ที่ 210 สาขา เพิ่มจากสิ้นปี 2023 ที่ 138 สาขา เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิ 2024E/25E ที่ 1.08/1.21 พันล้านบาท (+27% YoY/+12% YoY) สำหรับกำไร 4Q24E เราประเมินจะอยู่ที่ราว 240-260 ล้านบาท ดีขึ้น YoY, QoQ (กำไร 4Q23/3Q24 อยู่ที่ 242/205 ล้านบาท) จากทั้งธุรกิจค้าปลีกทองและขายฝากที่ดีขึ้น ส่วนปี 2025E จะดีขึ้น

โดย AURA ยังประเมินราคาทองยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น และมีแผนขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจขายฝาก รายได้ดอกเบี้ยรับจะทำ new high ได้ต่อเนื่องราคาหุ้นปรับตัวลงและ underperform SET -4% ใน 3 เดือน จากกำไร 3Q24 ที่ปรับตัวลดลง หลังจาก 2Q24 มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก แต่กลับมาเพิ่มขึ้นและ outperform SET ได้ +10% ในช่วง 1 เดือน

 

- Advertisement -