สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องในภาคเช้าลบราว 20 จุด ในช่วงบ่ายปรับตัวลงต่อเป็นลบเกือบ 40 จุด จากความกังวลไวรัสสายพันธ์ุใหม่ในแอฟริกาใต้ ประกอบกับความกังวลเรื่องที่ FED อาจทำการปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดการณ์เดิม พร้อมท้ังราคาน้ำมันดิบท่ีปรับตัวลง ปัจจัยลบเหล่าน้ีส่งผลให้หุ้นจำนวนมากเผชิญแรงขาย แต่มีหุ้นท่ีได้ประโยชน์ปรับตัวขึ้นอย่างหุ้นโรงพยาบาล ถุงมือยาง เช่น STGT, BCH, CHG ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,610.61 จุด -37.85 จุด -2.30% มูลค่าการซื้อขาย 123,472 ลบ. ต่างชาติ -6,091.21 ลบ. TFEX -55,742 สัญญา ตราสารหน้ี -13,600.27 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ จีนรายงานว่าอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้

+ ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือน ต.ค. เนื่องจากยกเลิกมาตรการจำกัดจำนวนมากเพื่อ ควบคุมโรคโควิด-19 กระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มข้ึนอย่างมาก ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 4.9% ในเดือน ต.ค. จาก +1.7% ในเดือนก.ย.

+กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยโควิด-19 ฉุด เศรษฐกิจทั่วโลก สถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นยาก จับตาอาเซียน-ไทยเป็นประเทศเป้าหมายแรงงานกำลังซื้อสูง เดินทางมาท่องเที่ยวและทำงาน เหตุค่าครองชีพต่ำ สภาพแวดล้อมเป็นมิตรต่อการทำงานนอกสถานที่

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 4,753 ราย ATK 1,607 ราย มีผู้เสียชีวิต 27 ราย รักษาหาย 6,165 ราย

ปัจจัยลบ

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 905.04 จุด -2.53% โดยหุ้นกลุ่มเดินทาง กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วง หนัก จากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเก่ียวกับรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุใหม่ที่อาจจะดื้อวัคซีน

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด ดิ่งลง 10.24 ดอลลาร์ -13.1% ปิดที่ 68.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และ -10.4% ในรอบ สัปดาห์ที่ผ่านมาจากความวิตกเก่ียวกับการพบไวรัสโควิด- 19 สายพันธ์ุใหม่ในแอฟริกาใต้

– WHO ประกาศว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุใหม่ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตก อาจแพร่ระบาดรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ

– อังกฤษเปิดเผยว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอ ฃไมครอน (Omicron) แล้ว 2 ราย

– เมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐอัปเดตข้อมูลจากการทดลองยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) พบว่ายาดังกล่าวลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้น้อยกว่าที่เคยประกาศไว้ในผลการทดลองเบื้องต้น

– ยอดการผลิตรถยนต์ของอังกฤษเดือนต.ค.ลดลงมากถึง 41.4%YoY ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเป็น ยอดการผลิตรถยนต์ประจำเดือนตุลาคมที่ต่ำที่สุดนับต้ังแต่ปี 2499

– รัฐบาลทหารเมียนมาขู่จับกุมประชาชนที่ซื้อพันธบัตรของรัฐบาลเงา โดยมีโทษจำคุกเป็นเวลานาน เนื่องจากถือว่า เป็นการให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงต่อตามทิศทางตลาดโลก จากความวิตกกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 สาย พันธุ์ใหม่ โอไมครอน ท่ีอาจจะดื้อวัคซีน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1600-1,620 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • MSCI Global Small Cap Indexes มีผล 30 พ.ย. หุ้นเข้า BEC TIPH TIDLOR หุ้นออก TKN
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 STGT STA BCH EKH SMD WINMED TM PHOL

หุ้นรายงานพิเศษ

TNP (ราคาเหมาะสม 7.20 บาท)

  • บริษัทรายงานรายได้งวด 3Q64 เท่ากับ 580 ลบ. +11.2%YoY -4.6%QoQ ต่ำกว่าคาด 7% และมีกำไรสุทธิ 38 ลบ. +25%YoY -14%QoQ ต่ำกว่าคาด 17% โดยผลประกอบการโต YoY จากการขยายสาขาเพิมขึ้นอีก 2 แห่ง รวมมีท้ังหมด 36 สาขา (+6 สาขา YoY +2 สาขา QoQ) อย่างไรก็ดี รายได้หดตัว QoQ จากทีคาดว่าจะเติบโต QoQ เป็นผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3Q64 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เร่งตัวข้ึนเฉลียเป็น 15,000 ราย/วัน จากช่วง 2Q64 เฉลียที 3,000 ราย/วัน ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยนอกบ้านลดลง ประกอบกับวงเงินสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า ทำให้งวด 9M64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 139 ลบ. +55%YoY และคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปี 64 เดิม ที่ 187 ลบ.
  • เราปรับประมาณการรายได้ปี 64 ลดลง 3% สู่ 2,553 ลบ. +16%YoY และปรับคาดกำไรลง 5% สู่ 184 ลบ. +37%YoY โดยเราปรับลดเป้าปีนี้ลงหลังจากผลประกอบการงวด 3Q64 ตำกว่าคาด อย่างไรก็ดี เราคาดแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q64 โต YoY และ QoQ จากแผนขยายสาขาอีก 2 แห่ง และการเข้าสู่ช่วง High Season ขณะที่ปี 65 เราคาดรายได้และกำไรราว 2,815 ลบ. +10%YoY และ 211 ลบ. +16%YoY ตามลำดับ จากแผนขยายสาขาใหม่ในปี 65 อีก 6 สาขา
  • (+) Catalyst บวกระยะสั้น: หากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศ Omicron ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้เริ่มมีการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคอีกครั้ง

หุ้นมีข่าว

(+) AS (Bloomberg Consensus 23.75 บาท) เปิดเกมรุกปี 2565 เล็งเปิดตัวเกมใหม่ 5-6 เกม เน้นเกมโมบายมากข้ึน ตั้งเป้ารายได้โตตามอุตสาหกรรมเกมที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% ลุยขยายตลาดเวียดนาม-อินโดนีเซีย เผยอยู่ระหว่างศึกษาทำเกม NFT มองเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยี ส่วนปีน้ีมั่นใจรายได้โต 15-20% ตามเป้า สัดส่วนเกมโมบายแตะ 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 5.75 บาท) วางเป้ารายได้ปี 2565 โตต่อเนื่อง 20% จาก สิ้นปี 2564 คาดรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท คาดงาน EPC ทั้งรัฐ-เอกชน เปิดประมูลงานกว่า 5 หมื่นล้านบาท หวังคว้าไม่น้อยกว่า 7-10% อวดแบ็กล็อกปัจจุบันทะลุ 1.15 หมื่นล้านบาท ลุ้นสัปดาห์นี้ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชง-กัญชา มองอนาคตเด่นไม่เกิน 2 ปีคุ้มทุน (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) SECURE (Bloomberg Consensus – บาท) ลั่นแนวโน้มความต้องการ Cybersecurity เพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาสภาวะชิปขาดตลาดหนุนแบ็กล็อกพุ่ง 105 ล้านบาท เชื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติในไตรมาส 2/65 หรือต้นไตรมาส 3/65 ด้านศูนย์ Technical Support Center คาดเปิดให้บริการต้นปี 65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) HFT (Bloomberg Consensus 11.20 บาท) “ฮั้วฟงฯ” หรือ HFT แย้มไตรมาส 4/64 ยอดขายโตรับไฮซีซั่นธุรกิจ มั่นใจผลงานทั้งปี 64 ท้านิวไฮ โชว์แผนธุรกิจ เตรียมสร้างแบรนด์รถจักรยานของตัวเองออกมาทำตลาด หวังบริหารต้นทุน-อัพมาร์จิ้นสูงกว่ารับจ้างผลิตมากถึง 15% นอกจากน้ีพร้อมก้าวสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 29 พ.ย. สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลข การส่งออก-นำเข้า

  • สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 30 พ.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 29 พ.ย. สหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ต.ค. ดัชนีการผลิตเดือน พ.ย. จากเฟดดัลลัส
  • 30 พ.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต -ภาคบริการเดือน พ.ย. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน

อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อขั้นต้นเดือน พ.ย.

สหรัฐรายงานดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.จาก Conference Board

  • 1 ธ.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากไฉซิน

อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. จาก ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต ดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์

- Advertisement -