บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ชูแนวทางสำคัญในการใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อตอบโจทย์มาตรฐานความปลอดภัยที่องค์กรต้องการ พร้อมสนับสนุนผู้ใช้งานในทุกอุตสาหกรรมให้มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการใช้ระบบคลาวด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และมีการจัดการที่โปร่งใส
- องค์กรมีความสนใจที่จะใช้คลาวด์เทคโนโลยีแต่ไม่มีทีมที่มีทักษะด้านคลาวด์โดยเฉพาะ ควรทำอย่างไร
– สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีคลาวด์แต่ยังไม่มีทีมที่มีทักษะเฉพาะด้านคลาวด์ สามารถเริ่มต้นได้ดังนี้:
ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ: ติดต่อผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น NT ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ระดับ Advanced Tier ของ AWS เพื่อรับคำปรึกษาในการเริ่มต้นใช้งาน ตั้งแต่การวางแผนระบบจนถึงการใช้งานจริง
บริการ Managed Service: เลือกใช้บริการ Managed Service ซึ่งผู้ให้บริการจะดูแลการจัดการระบบคลาวด์แทนองค์กร ทั้งด้านการติดตั้ง การดูแล และการแก้ไขปัญหา
อบรมทีมงานเพื่ออัปสกิลให้มีทักษะเพิ่มขึ้น: ลงทุนพัฒนาทักษะทีมงานด้วยการจัดอบรมคอร์สเกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์ เช่น คอร์สออนไลน์ของ AWS Skill Builder ที่มีคอร์สฟรีกว่า 600 คอร์ส หรือคอร์สออนไซต์ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญของ NT และมีบริการสอบCertification
การเริ่มต้นใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ไม่จำเป็นต้องมีทีมที่เชี่ยวชาญตั้งแต่แรก ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีประสบการณ์ เช่น NT พร้อมช่วยให้องค์กรของคุณเปลี่ยนผ่านไปสู่คลาวด์ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- เราจะมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างไร เมื่อย้ายขึ้นไปใช้ระบบคลาวด์ และข้อมูลเราจะอยู่ในประเทศไทยหรือไม่
ความปลอดภัยของข้อมูลและที่ตั้งของข้อมูลเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการใช้งานระบบคลาวด์ ผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น AWS มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ทั้งระหว่างการส่งผ่านและขณะจัดเก็บ รวมถึงการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด AWS ยังได้รับการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล เช่น ISO 27001, SOC 1, SOC 2, SOC 3, GDPR, HIPAA และ PCI-DSS นอกจากนั้นแล้ว AWS มีคำแนะนำและเครื่องมือ เช่น AWS Well-Architected Framework เพื่อช่วยให้ลูกค้าออกแบบระบบที่ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด
ซึ่งสำหรับองค์กรที่มีความต้องการให้ข้อมูลเก็บอยู่ภายในประเทศ ผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น NT ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ AWS มีโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลจะถูกจัดเก็บและประมวลผลภายในประเทศไทย รวมถึง AWS ที่จะเปิดให้บริการ Regions ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ มั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกจัดเก็บภายในประเทศ
- เราจะประมาณค่าใช้จ่ายได้อย่างไร ถ้าเป็นการจ่ายตามที่ใช้งาน
การประมาณค่าใช้จ่ายระบบคลาวด์แบบ Pay-as-you-go ทำได้โดยการใช้เครื่องมือของ AWS เช่น AWS Pricing Calculator ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถประมาณค่าใช้จ่ายตามการใช้งานที่คาดการณ์ไว้ เช่น จำนวนทรัพยากรที่ต้องการ (เช่น เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ฯลฯ) และระยะเวลาใช้งาน และ AWS Cost Explorer ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยติดตามการใช้งานและประมาณค่าใช้จ่ายในอนาคต รวมทั้งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น NT เพื่อช่วยให้คุณเลือกทรัพยากรที่เหมาะสมกับความต้องการ โดยประมาณค่าใช้จ่ายจาก Workload ที่คาดว่าจะใช้งานต่อปี หรือต่อสัญญา และควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เราควรใช้คลาวด์ของผู้ให้บริการคลาวด์รายใด
ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และ ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของคลาวด์ และเป็น Top Leaders ใน Gartner’s Magic Quadrant เช่น AWS ที่มีการออกแบบใน Regions จะมีหลาย Availability Zone (Az) ในแต่ละ Az มีหลาย Data Center โดยแต่ละ Data Center จะมีพลังงานสำรอง เครือข่าย และการเชื่อมต่อตั้งอยู่ในอาคารที่แยกจากกัน อีกทั้ง Az จะไม่ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนแยก หรือพื้นที่ที่มีโอกาสน้ำท่วม เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความล้มเหลวพร้อมกัน อีกทั้ง AWS เป็นผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานมากมาย เช่น CSA-STAR, ISO 27001, SOC1, SOC2 และ SOC3 เป็นต้น และเป็น Top Leaders ใน Gartner’s Magic Quadrant ของผู้ให้บริการคลาวด์ของโลกอีกด้วย - หลังจากย้ายไปใช้ระบบคลาวด์แล้ว เราจะย้ายกลับมาใช้ On-Premises หรือคลาวด์ได้หรือไม่
– สามารถย้ายกลับมาใช้ On-Premises ได้ โดยต้องเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน วางแผนให้ละเอียด และใช้เครื่องมือที่เหมาะสม บางองค์กรอาจมีการออกแบบระบบให้ยืดหยุ่น และมีการจัดลำดับของข้อมูลตามความสำคัญ (Data Classification) เพื่อพิจารณาวิธีการเก็บและบริหารจัดการข้อมูลในรูปแบบของไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) ซึ่งเป็นการออกแบบระบบให้สามารถทำงานได้ทั้ง On-Premises และคลาวด์ โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนที่สำคัญขององค์กรไว้ที่ On-Premisesและข้อมูลส่วนอื่น ๆ ไว้ที่คลาวด์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความยืดหยุ่นในอนาคต - จริงหรือไม่ที่การใช้ระบบคลาวด์มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการใช้ระบบ On-Premises
- การใช้เทคโนโลยีคลาวด์นอกจากจะมีรูปแบบของค่าใช้จ่ายที่แตกต่างจาก On-Premises แล้ว ยังมีความแตกต่างในด้านความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ :
On-Premises Cloud ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น (Initial Cost) มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง เช่น การซื้อเซิร์ฟเวอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นไม่สูง เนื่องจากเป็นรูปแบบ “จ่ายเท่าที่ใช้งาน (Pay-as-you-go)”ซึ่งช่วยลดต้นทุนการลงทุน (CapEx) ค่าใช้จ่ายระยะยาว (Long-Term Cost) มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น การบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ การอัปเดตซอฟต์แวร์ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายพนักงานดูแลระบบ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน เช่น จำนวนเซิร์ฟเวอร์ ความจุของข้อมูล และบริการเพิ่มเติม แต่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน ความยืดหยุ่นและการขยายตัว หากต้องการเพิ่มทรัพยากร เช่น เซิร์ฟเวอร์หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูล จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและใช้เวลาในการติดตั้ง สามารถเพิ่มหรือลดทรัพยากรได้ทันทีตามความต้องการ (Scalability) ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน (Over-Provisioning) ประสิทธิภาพและประโยชน์ทางธุรกิจ ระบบอาจไม่มีความยืดหยุ่นหรือความพร้อมรองรับการใช้งานใหม่ๆ เช่น AI, Machine Learning หรือ Big Data มีบริการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสทางธุรกิจ
- ถ้าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับคลาวด์เพิ่มเติม มีช่องทางไหนบ้าง ผู้ให้บริการคลาวด์จะมีคอร์สเรียนออนไลน์ให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าศึกษาเพิ่มเติมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถสมัครเรียนคอร์ส Training พร้อมสอบวัดผลทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ ได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึง Specialty ผ่านทาง NT โดย NT กำลังจัดโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568
NT ซึ่งเป็นพันธมิตรระดับ Advanced Tier ของ AWS พร้อมให้บริการ AWS Cloud แบบครบวงจร (One-Stop Service) สำหรับลูกค้าในประเทศไทย หากสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ AWS Cloud ผ่าน NT Cloud สามารถติดต่อได้ที่ntcloud@ntplc.co.th หรือเยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:https://ntcloudsolutions.ntplc.co.th/solutions/nt-cloud-aws/