KS Daily View 25.12.2024 >>> หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น รับ Santa Claus Rally หุ้นไทยรีบาวด์ต่อเนื่อง ในกรอบ 1,380 – 1,405 แนะนำ SPA, AMATA

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ปรับตัวขึ้นรับ Santa Claus Rally โดย S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.1% ปิดเหนือ 6,000 จุด ใกล้เคียงกับระดับก่อนการประชุมเฟด, Dow Jones +0.91% และ Nasdaq +1.35% แม้จะยังมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี จะปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 4.59% ก็ตาม แต่ตลาดได้แรงหนุนจากการขึ้นของหุ้นเติบโตขนาดใหญ่อย่างกลุ่มMagnificent 7, หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงหุ้นในกลุ่มการเงิน นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวทีกระทรวงการคลังจีนเตรียมออกพันธบัตรพิเศษมูลค่า 3 ล้านล้านหยวน (411 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2025 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,394.67 จุด เพิ่มขึ้น 8 จุด ทำผลงานดีกว่าตลาดในภูมิภาค โดย 24 กลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีก พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง โรงพยาบาล และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่อิเล็กทรอนิกส์และสื่อสารกดดันตลาด ได้แรงหนุนจากมาตรการ Easy e-Receipt และจีนที่เตรียมออกพันธบัตรพิเศษ 3 ล้านล้านหยวน โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,612 ล้านบาท คาดจากกองทุนลดหย่อนภาษีปลายปี แนวโน้มวันนี้คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,405 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,400 จุด หุ้นแนะนำเป็น SPA, AMATA และติดตามการส่งออกของไทยที่มีกำหนดรายงานในวันนี้

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ 3 โครงการที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในไตรมาสแรกของปี 2568 ประกอบด้วย (1) มาตรการ Easy e-Receipt 2.0 ที่ให้ใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 50,000 บาท แบ่งเป็น 30,000 บาทสำหรับร้านค้าทั่วไป และ 20,000 บาทสำหรับวิสาหกิจชุมชนและร้านโอทอป ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 (2) แจกเงิน 10,000 บาทแก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ วงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยจะโอนผ่านพร้อมเพย์ก่อนตรุษจีน และ (3) ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท วงเงิน 35,000 ล้านบาท รวมทั้ง 3 มาตรการจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะช่วยรักษาโมเมนตัมทางเศรษฐกิจและผลักดันการเติบโตในปี 2568 ให้สูงกว่า 3%

2.) ครม. อนุมัติขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตสถานบันเทิงจาก 10% เหลือ 5% ต่ออีก 1 ปี (1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2568) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและสนับสนุนแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” การลดภาษีนี้ทำให้มีผู้ประกอบการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 60.92% และรายได้ภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น 31.24% ซึ่งครอบคลุมสถานบริการประเภทไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ และค็อกเทลเลาจน์

3.) กระทรวงคมนาคมได้รับอนุมัติจากครม. ให้สร้างส่วนต่อขยายทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) จากรังสิตถึงบางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร ในรูปแบบ PPP Gross Cost มูลค่า 79,917 ล้านบาท โดยเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร มี 7 จุดขึ้นลง ระยะเวลาโครงการ 34 ปี แบ่งเป็นก่อสร้าง 4 ปี และดำเนินงาน 30 ปี กำหนดค่าผ่านทางรถ 4 ล้อ 20-40 บาท และรถมากกว่า 4 ล้อ 30-65 บาท ปรับขึ้น 2.5% ทุก 5 ปี คาดแล้วเสร็จปี 2572

4.) ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2567 ลดลง 10% อยู่ที่ 89,646 คัน มูลค่า 77,699 ล้านบาท ทำให้ยอดส่งออก 11 เดือนแรกอยู่ที่ 942,867 คัน ลดลง 8.21% ขณะที่ยอดผลิตรวม 11 เดือนอยู่ที่ 1.36 ล้านคัน ลดลง 20.14% ต่ำกว่าช่วงโควิด เนื่องจากการเข้มงวดสินเชื่อและเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. เสนอให้รัฐตั้งกองทุนชดเชยรถยึด 5 พันล้านบาท หวังกระตุ้นยอดขายรถกระบะเพิ่ม 1 แสนคันในปีหน้า

5.) กระทรวงการคลังจีนยืนยันจะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2025 เน้นกระตุ้นการบริโภค โดยมีแผนออกพันธบัตรพิเศษมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านหยวน (411 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อใช้สนับสนุนเงินอุดหนุนการบริโภค การปรับปรุงอุปกรณ์ธุรกิจ การลงทุนด้านเทคโนโลยี และการผลิตขั้นสูง รวมถึงเพิ่มทุนให้ธนาคารของรัฐ มาตรการนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

SPA : ราคาพื้นฐาน 8.02 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SPA จากการเร่งขยายสาขาเป็น 79 สาขาในปี 2024 และแผนเพิ่มอีก 10 สาขาในปี 2569 ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันการเติบโตของรายได้ในปีหน้า นอกจากนี้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจากการปรับราคาในไตรมาส 3/2568 และการปรับแผนราคา รวมถึงจะได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเราคาดการณ์นักท่องเที่ยวปีหน้าที่ 37.5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ระมัดระวังเมื่อเทียบกับธนาคารแห่งประเทศไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่คาดการณ์ที่ 39.5 ล้านคน ทั้งนี้เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2568-69 เพิ่มขึ้น 3%

AMATA : ราคาพื้นฐาน 34.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AMATA จากโอกาสทำกำไรสูงสุดในปี 2567 ที่ 2.48 พันล้านบาท จากยอดขายที่ดินที่มีอัตรากำไรสูงและการเติบโตของรายได้สาธารณูปโภค โดยเราปรับประมาณการกำไรปี 2568 เพิ่มเป็น 3.6 พันล้านบาท เติบโต 46% จากการคาดการณ์การโอนยอดจองที่แข็งแกร่งกว่า 19.2 หมื่นล้านบาท และมีเงินมัดจำจากลูกค้าอีก 9.4 พันล้านบาทในงบดุล ขณะที่คาดยอดขายที่ดินปี 2567 จะทำได้ 2,500 ไร่ สะท้อนความต้องการย้ายฐานการผลิตมาไทยที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ การนำ AMATA U ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าตลาดในปี 2568 จะช่วยปลดล็อกมูลค่าเพิ่มเติม โดยเราปรับราคามูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้นจาก 33.5 บาท เป็น 34 บาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกจากกระทรวงพาณิชย์ (TH MOC Export) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 14.6% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH MOC Import) ตลาดคาดการณ์ที่ 1.3% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 15.9% YoY
  • วันพฤหัสฯ ติดตามการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.20 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่น เช่น อัตราการว่างงาน (Japan Unemployment Rate) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.5% YoY เท่ากับเดือนก่อนหน้า ต่อด้วยดัชนียอดค้าปลีก (Japan Retail Sales) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.6% YoY และปิดท้ายด้วยตัวเลขส่งออก (Exports) ของ ธปท. เดือน พ.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 14.2% YoY และตัวเลขนำเข้า (Imports) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 17.1% YoY
- Advertisement -