บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
INOUE RUBBER กําไร 4Q64 สะดุด..แต่จะกลับมาฟื้นในปี 65
Action
BUY
TP upside (downside) 23%
Close Nov 29, 2021 Price (THB) 17.10
12M Target (THB) 20.90
Previous Target (THB) 22.90
What’s new?
- IRC รายงานกําไร 4Q64 ชะลอตัว 50%QoQ และ 64%YoY หลักๆจากต้นทุนวัตถุดิบท่ีเพิ่มขึ้น
- เราคาดผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวอีกคร้ังในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังสถานการณ์ขาดแคลนชิพท่ัวโลกเร่ิมคลี่คลายในทางท่ีดีขึ้น
- ระยะยาวคาดได้ผลบวกจากการขยายธุรกิจใหม่ Rubber pad และโอกาสได้งานจาก EV
Our View
- เราคงคําแนะนํา “ซื้อ” เรามองว่าผลประกอบการผ่านช่วงท่ีแย่สุดไปแล้ว และจะกลับมาเติบโตอีกคร้ังในปี 2565
- IRC เป็น Net cash company ไม่มีภาระหนี้สิน และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
- เราปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ลดลงจากเดิมท่ี 22.90 บาท เหลือ 20.90 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการ อิง P/E เฉลี่ยท่ี 10.50x
4Q64 กำไรลดลง QoQ และ YoY ต้นทุนวัตถุดิบกดดัน
IRC รายงานกำไรสุทธิ 4Q64 (ก.ค.-ก.ย. 64) ที่ 29 ล้านบาท -50% QoQ, -64% YoY ต่ำกว่าประมาณการของเรา 45% จากต้นทุนที่สูงกว่าคาด ผลประกอบการที่ปรับลดลงหลักๆ จากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ลดลง เนื่องจากต้นทุนราคาวัตถุดิบ (Polimer, Synthetic Rubber และ Carbon Black) ที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% QoQ ตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 14.8% และ 11.7% ใน 4Q63 และ 3Q64 เหลือ 8.5%
ภาพรวมปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 340 ล้านบาท +55% YoY โดยยอดขายปรับเพิ่มขึ้น 21% YoY เป็น 5,297 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ที่ยอดผลิตปรับเพิ่มขึ้นราว 15% YoY ด้านต้นทุนปรับลดลง นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มขึ้น ยังมาจากนโยบายการควบคุมต้นทุน โดยนำระบบ Automation มาทดแทนแรงงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับลดลงจากปี 2564 ที่ 8.5% เหลือ 70%
ปี 2565 คาดเติบโตดีตามอุตสาหกรรม
เรามองว่าผลประกอบการของ IRC ใน 1Q65 (ต.ค. -ธ.ค. 64) จะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ล่าสุดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ในเดือน ต.ค. 54 เพิ่มขึ้น 3% YoY และเพิ่มจากเดือนก่อน 10% เนื่องจากสถานการณ์ขาดแคลนชิพในอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มคลี่คลายหลังคลายล็อคดาวน์ของประเทศคู่ค้า ทำให้ส่งชิ้นส่วนให้ประเทศไทยได้มากขึ้น ขณะที่ในเดือน พ.ย. มีการเปิดประเทศ และมีการจัดงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง ขณะที่แนวโน้มราคาวัตถุดิบคาดว่าจะเริ่มปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มอ่อนตัวลง
อย่างไรก็ตาม ด้วยผลประกอบการใน 4Q64 ที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงกว่าที่เราคาด ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 ลงจากเดิม 9% เหลือ 398 ล้านบาท (+17% YoY) จากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมที่ 14.67% เหลือ 13.98%
คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว
เรามองว่าผลประกอบการผ่านช่วงที่แย่สุดไปแล้ว เราคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ และแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่คาดจะปรับลดลงตามราคาน้ำมัน ระยะยาวคาดได้ผลบวกจากการขยายธุรกิจใหม่ Rubber pad ยางสำหรับรองรางรถไฟ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ส่วนประเด็น EV มองเป็นบวกต่อบริษัท ซึ่งบริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีรองรับการผลิตและมีการเจรจากับลูกค้าแล้วหลายราย ซึ่งเชื่อว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต สอดคล้องกับปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะแพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ IRC ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เป็น Net cash company ไม่มีภาระหนี้สินและมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 จากเดิมที่ 22.90 บาทเป็น 20.90 บาท สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไร อิง PE เฉลี่ย 5 ปีในกรอบล่างที่ 10.5x