KS Daily View 29.01.2025 >>> FOMC คืนนี้คาด คงดอกเบี้ย 4.50% พร้อมจับตาถ้อยแถลง Powell มองกรอบ SET วันนี้ 1,330 – 1,360 หุ้นแนะนำเป็น TTB, WHA
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นโดย Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.31%, S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.92% แบะ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 2.03% หนุนโดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นหลังจากลงแรงในวันจันทร์ นำโดย NVIDIA ที่เพิ่มขึ้นราว 9% นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มซอฟต์แวร์และ Apple ยังปรับตัวขึ้นได้ดี จากการที่คาดว่าต้นทุนของ AI จะถูกลง สำหรับกลุ่ม Value ปรับตัวลงหลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคมของ Conference Board ลดลงเหลือ 104.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,345.77 จุด ปรับตัวขึ้นราว 5 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายราว 36,700 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะซื้อสุทธิที่ 1,917 แรงหนุนมาจากหุ้นในกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง และโรงพยาบาล รวมถึงกลุ่มพลังงาน ส่วนแรงกดดันยังคงเป็น DELTA ที่ปรับตัวลงตาม Sentiment ของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกที่กดดันจากประเด็น DeepSeek และ OSP กังวลส่วนแบ่งการตลาดลดลง เรามองดัชนีน่าจะ Sideway ที่กรอบ 1,330 – 1,360 รอการประชุม FOMC ในคืนนี้ที่น่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.50% แต่ความสำคัญจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของ Powell ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยอย่างไรหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับหุ้นแนะนำเป็น TTB, WHA
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนมกราคมสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยดัชนีจาก Conference Board ลดลง 5.4 จุดเหลือ 104.1 จุด สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง โดยจำนวนคนที่มองว่าหางานง่ายลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงยังคงส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าราคาแพงและแผนการท่องเที่ยว
2.ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยปี 2567 ร่วงลง 26% เหลือ 572,675 คัน ต่ำสุดในรอบ 14 ปี เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อโดยมีอัตราปฏิเสธสูงถึง 70% และปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงถึง 86% ของ GDP ขณะที่การส่งออกลดลง 8.8% เหลือ 1.02 ล้านคัน ส่งผลให้การผลิตรวมลดลง 20% เหลือ 1.47 ล้านคัน กระทบต่อชื่อเสียง “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” ของไทย โดยคาดการณ์ว่าการผลิตในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.5 ล้านคัน
3.กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอ ครม.สัปดาห์หน้าพิจารณางบกลาง 190.41 ล้านบาท เพื่อชดเชยรายได้ให้ผู้ประกอบการรถไฟฟ้า 138.7 ล้านบาท และ ขสมก. 51.7 ล้านบาท จากมาตรการให้ประชาชนใช้บริการฟรี 7 วันเพื่อลดฝุ่น PM2.5 พร้อมวางแผนระยะยาวส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ เปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด และพิจารณาเก็บค่าธรรมเนียมรถติด รวมถึงปรับภาษีรถเก่าและส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
4.ครม.อนุมัติงบประมาณ 16,960 ล้านบาทสำหรับโครงการสถาบันการแพทย์ศิริราชระดับนานาชาติ เพื่อเป็นสถาบันการแพทย์ภาครัฐต้นแบบแห่งแรกของไทยและศูนย์กลางทางการแพทย์นานาชาติ โดยจะใช้งบประมาณแผ่นดิน 11,048 ล้านบาท และเงินนอกงบประมาณ 5,912 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569-2574 มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในเอเชียที่ให้บริการระดับเหนือตติยภูมิและเป็นศูนย์ฝึกอบรมมาตรฐานสากล
5.ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงลงเกือบ 2% เมื่อวันจันทร์ โดยน้ำมันเบรนท์ขยับขึ้นใกล้ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเรื่องการระงับการส่งออกน้ำมันจากท่าเรือหลักในลิเบีย และแผนเก็บภาษีนำเข้าทั่วไปของทรัมป์ที่จะสูงกว่า 2.5% นอกจากนี้แอลเบอร์ตาของแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าน้ำมันกว่าครึ่งของสหรัฐฯ ก็เตรียมรับมือกับภาษีที่อาจมีผลวันที่ 1 กุมภาพันธ์
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
TTB : ราคาพื้นฐาน 1.98 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TTB จากการประกาศแผนซื้อหุ้นคืนเมื่อวันที่ 28 มกราคม วงเงิน 21,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี โดยปีแรกใช้วงเงิน 7,000 ล้านบาท จำนวน 3,500 ล้านหุ้น เริ่ม 3 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนอีก 2 ปีจะพิจารณาภายหลัง ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารเงินทุนของธนาคาร คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และกำไรต่อหุ้น โดยธนาคารมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการซื้อหุ้นคืนจากอัตราส่วนเงินกองทุนที่ 19.3% สูงกว่าเกณฑ์ 12% ซึ่งจะไม่กระทบต่อความมั่นคงและแผนธุรกิจในอนาคต
WHA : ราคาพื้นฐาน 6.25 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ WHA จากการเปิดแผนธุรกิจปี 2568 โดยบริษัทยังคงมองบวกต่อการลงทุนที่ไหลเข้าไทยและเวียดนามซึ่งได้ประโยชน์อย่างมากจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน โดยตั้งเป้ารายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2568 และอยู่ระหว่างศึกษาขยายธุรกิจสู่ประเทศใหม่ พร้อมเพิ่มงบลงทุน 5 ปีเป็น 119,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากแรงหนุนของธุรกิจใหม่ (Mobilix) แม้เป้าหมายขายที่ดินปี 2568 ที่ 2,350 ไร่อาจดูไม่น่าตื่นเต้น แต่มีแนวโน้มจะได้รับการปรับเพิ่มในครึ่งหลังของปี 2568
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตามผลการประชุม FOMC โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.50%
- วันพฤหัสฯ ติดตามดัชนีความเชื่อมันของผู้บริโภคของยุโรป (EU CCI) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -14.3 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -14.5 จุด ต่อด้วยการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่คาดว่าจะมีการปรับลด Deposit Rate ลง 25 bps จาก 3.00% เหลือ 2.75%, การรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.17 แสนตำแหน่ง และ GDP 4Q24 รอบแรกของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว +2.7% QoQ ชะลอตัวลงจากที่เคยขยายตัว +3.1% QoQ ใน 3Q24
- วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขส่งออกจากธปท. (TH Export) เดือน ธ.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.1% YoY และตัวเลขนำเข้าเดือน (TH Import) ธ.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.3% YoY และตัวเลขของสหรัฐ ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ต่อด้วยดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal Income) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% MoM และดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal Spending) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.5% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM