บล.กสิกรไทย:

อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง : แนวโน้มการเติบโตชะลอตัว

  • การส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 220.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธ.ค. หนุนจากการเติบโตของการส่งออกที่น่าประทับใจไปยังสหรัฐฯ และจีน
  • อาหารสัตว์เลี้ยงของจีน จีน ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยในเอเชีย ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงมูลค่า 122.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 17.1% YoY แต่ลดลง 5.4% MoM โดยในจำนวนนี้มีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่า 23.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรม เนื่องจากการเติบโต YoY ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน ในปี 2567 คาดว่ายอดขายรวมของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงจะอยู่ที่ 2.36 หมื่นลบ. (+18.5% YoY) และขยายตัวเป็น 2.7 หมื่นลบ.ในปี 2568 หรืออัตราการเติบโตที่ลดลงเหลือ 14.5% YoY ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรปกติของอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 4.9 พันลบ. (+78.5% YoY) ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 พันลบ.ในปี 2568 ซึ่งแสดงถึงอัตราการเติบโตที่ลดลงเหลือ 7.5%
  • เราคาดว่า ITC จะเป็นปัจจัยฉุดการเติบโตของกำไรอุตสาหกรรมในปี 2568 โดยมีความท้าทายในการขยายอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เนื่องจากผลกระทบจากการกลับรายการสต็อกสินค้าที่ลดลง และอัตราภาษีที่แท้จริงสูงขึ้นจากภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำ (Global Minimum Tax หรือ GMT) ในระยะสั้น เราคาดว่า AAI จะมีกำไรเติบโตสองหลัก YoY อย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4/2567 แต่กำไรอาจลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล ขณะเดียวกัน ITC ได้ให้แนวทางว่ายอดขายจะทรงตัว YoY โดยคาดว่า GPM จะลดลงเนื่องจากผลกระทบที่ลดลงของกำไรครั้งเดียวจากการกลับรายการตั้งสำรองหลังไตรมาส 3/2567
  • เราคงมุมมองเป็นกลางต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง และคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ AAI ด้วยราคาเป้าหมายที่ 7.8 บาท เนื่องจากการขยาย GPM จากธุรกิจเดิมของบริษัทฯ และแนวโน้มยอดขายที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/2567 ขณะเดียวกัน เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ ITC ด้วยราคาเป้าหมายที่ 20.10 บาท จาก GPM ที่ขยายตัวล่าสุดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นจากกำไรครั้งเดียวจากการกลับรายการสำรอง

- Advertisement -