นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE

AGE กาง Road Map ปี 68 มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานยั่งยืน ปักธง รายได้กลุ่มบริษัทฯ โต 17,000 ล้านบาท

บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กาง Road Map ปี 2568 ประกาศมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) เดินเกมรุก ลุย 4 กลุ่มธุรกิจ “ถ่านหิน-โลจิสติกส์-พลังงานยั่งยืน-Diversified” เล็งดัน ABM เป็น flagship ของกลุ่มบริษัทฯ ปั้นรายได้รวมปีนี้ แตะ 17,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายปี 2573 สัดส่วน EBITDA จากธุรกิจกรีน และธุรกิจถ่านหิน เป็น 50:50 ตอกย้ำสถานะความแข็งแกร่งทางการเงิน โชว์ฟอร์มประกาศไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดชำระจริงบางส่วน ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลง – เพิ่มสภาพคล่องสนับสนุนการเติบโตในอนาคต

นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) สอดรับแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน  ใน บมจ.เอเชีย ไบโอแมส หรือ ABM ช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ ABM กลายเป็น flagship ทางด้านพลังงานยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ

“ดีลการทำ Tender Offer หุ้น ABM ได้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ AGE จะเป็นผู้ถือหุ้นใน ABM สัดส่วน 52.09% และถือหุ้นใน “ทุนทำดี” ที่ 100%ขณะที่ ABM จะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ที่ 24%และถือหุ้นในบริษัท กรีน อาร์ดีเอฟ จำกัด (GRDF) ที่ 100%“

สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2568 บริษัทฯ แบ่งโครงสร้างธุรกิจเป็น 4 กลุ่ม โดยตั้งแต่ปีนี้กลุ่มบริษัทฯ จะเริ่มก้าวสู่การดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืน ภายใต้การตั้งเป้าหมายในปี 2573 จะมีสัดส่วน EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) จากธุรกิจกรีน 50% และธุรกิจถ่านหิน 50% พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2568 จะเติบโตขึ้นแตะระดับ 17,000 ล้านบาท จาก 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

1.ธุรกิจถ่านหิน บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายถ่านหิน ไว้ที่ระดับ 13,000 ภายใต้การรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้

2.ธุรกิจโลจิสติกส์ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 900 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนจะขยายฐานลูกค้าภายนอกทั้งจากกลุ่มสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มเป็นสัดส่วน 50% จากปัจจุบันที่ 35% โดยในช่วงปี 2568-2573 บริษัทฯ มีแผนขยายกองเรือลำเลียง เนื่องจากการขนส่งทางน้ำมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งทางบกโดยรถบรรทุก และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน จากปริมาณการขนส่งต่อเที่ยวที่มากกว่า

3.ธุรกิจพลังงานยั่งยืน เป้ารายได้รวมธุรกิจที่ 2,200 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนเพิ่มยอดขายเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงจากขยะ

4.ธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย “เอจีอี เวนเจอร์ส หรือ AGEVT” ได้จัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการเช่ารถ Taxi EV โดยในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าปล่อยเช่า Taxi EV รวมประมาณ 200 คัน และธุรกิจ ดีลเลอร์รถยนต์ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด ปีนี้ตั้งเป้าเปิด 6 โชว์รูม ภายใต้แบรนด์ OMODA & JAECOO, Mitsu, Zeekr, และ AION ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ นางสาวปณิตา ยังได้กล่างถึงภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินในประเทศและต่างประเทศว่า ในช่วงปี 2566-2569 ปริมาณการใช้ถ่านหินโลกจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณ 0.8% และการเติบโตสูงสุดของการบริโภคจะอยู่ในอาเซียน ด้วยอัตราการเติบโตที่ 5.9% ตั้งแต่ปี 2566-2569 เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีถ่านหินที่สะอาดยิ่งขึ้น เช่น การดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) และถ่านหินยังคงเป็นพลังงานราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับพลังงานอื่น สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ ยังคงมองว่าความต้องการใช้ถ่านหินยังคงสามารถเติบโตได้ เนื่องจากถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนถูกเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่น

นอกจากนี้ AGE ยังได้ตอกย้ำสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทฯ โดยได้ประกาศไถ่ถอนหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 (AGE256A) บางส่วน มูลค่า 204 ล้านบาท ก่อนครบกำหนดชำระจริง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยจ่าย ทั้งยังส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลง และเพิ่มสภาพคล่องสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของกลุ่มบริษัทฯ

- Advertisement -