ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ไซด์เวย์ ติดตามปัจจัย Omicron เพิ่มเติม

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดไซด์เวย์ … หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงเช้า ก่อนฟื้นตัวแรงพอสมควรในช่วงบ่าย (ดีกว่าที่เราคาด) ตามแรงซื้อกลับจากฝั่งสถาบันภายในประเทศ และมุมมองที่ว่า valuations ของตลาดหุ้นไทยตึงตัวน้อยลง หลังปรับฐานแรงไปแล้ว … สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง / ลบเล็กน้อย i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดน้ำมันดิบปรับฐานลงต่อเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐฯรายงานการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron รายแรก ii) นักลงทุนติดตามการประชุม OPEC+ ที่จะออกมาในคืนวันนี้โดยตลาดคาดว่า OPEC+ อาจปรับแผนการผลิตน้ำมันดิบจากที่ปัจจุบันเพิ่ม output 4 แสนบาร์เรลต่อเดือน …. ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่งตัวเลข ADP private payrolls เดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 5.34 แสนคน (consensus คาด 5.25 แสนคน) และตัวเลข ISM ภาคการผลิต พ.ย. อยู่ที่ 61.1 จุด (consensus คาดที่ 61.0 จุด) … ด้านปัจจัยภายในประเทศศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 4,971 ราย เสียชีวิต 33 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 5,402 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร SMD, LEO, KBANK*

  • SMD (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.2 บาท / แนวต้าน 15.0-15.3 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 16 บาท (Stop loss 14.0 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย i) งบประมาณด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น ii) นำเข้าชุดตรวจ ATK ขายในร้าน 7-Eleven 3) Valuation ไม่แพง PE ปี 2564 เพียง 9.9 เท่า
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 15.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.9 บาท / แนวต้าน 12.4-12.6 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกสทดสอบแนวต้านถัดไป 13.3 บาท (Stop loss 11.7 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q64 ยังทรงตัวสูงต่อเนื่องจาก 3Q64 จาก i) มีรายได้เลื่อนการรับรู้ทางบัญชีจาก 3Q64 ii) ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ Shanghai Containerized Freight index ล่าสุดยังยืนสูงมากกว่า 4,600 จุดทรงตัว QTD แม้เป็น Low Season 3) Catalyst บวกสำหรับ LEO ในเดือน ธ.ค. ที่จะเป็น Upside ต่อประมาณการฯ ได้แก่ i) การปิดดีล M&A 1 แห่ง และ ii) การสรุปบริหารจัดการการขนส่งสินค้ารถไฟจีน-ลาวของพันธมิตร China post (โดย China post ได้สิทธิบริหารจัดการฯ ราว 1/5 ของปริมาณขนส่งรถไฟจีน-ลาว)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 173 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 134 บาท / แนวต้าน 138-140 บาท (Stop loss 130 บาท) ราคาหุ้นพักฐานแรงเป็นโอกาส “ซื้อเก็งกำไรที่แนวรับ” 2) ประเมิน Catalyst บวก i) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2565 ii) ดอกเบี้ยอยู่จุดต่ำสุดแล้ว iii) นโยบายของ ธปท. ที่เป็นการช่วยเหลือการลดการตั้งสำรองฯ iv) การขยายการลงทุนไปธุรกิจใหม่ๆ คาดจะเพิ่มโอกาสการ Re-rate Valuation จาก PBV ปัจจุบันที่ต่ำเพียง 0.69 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) KKP*-BAY รุกสินเชื่อดิจิทัลจับมือทรู IBM ลุยฟินเทค (ข่าวหุ้น) ธนาคารเกียรตินาคินภัทรจับมือทรูมันนี่เปิดตัวสินเชื่อเงินออนไลน์ “KKP CASH NOW” วงเงิน 4 แสนบาทดอกเบี้ยเริ่มต้น 8.99% ต่อปี ผ่านแอปฯ True Money Wallet ตอบสนองความต้องการลูกค้าส่งท้ายปี ด้านแบงก์กรุงศรีฯ จับมือ “ไอบีเอ็ม” ตั้งเป้าเป็นสถาบันการเงินที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลก้าวที่สุดในภูมิภาค

(+) PTTEP* มองลงทุนนอกกรอบรักคาร์บอน-หุ่นยนต์-เอไอ (ทันหุ้น) PTTEP ประกาศแผนลงทุน 5 ปีกว่า 9.11 แสนล้านบาท มุ่งธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม คาดปริมาณขายเฉลี่ยโต 5% ต่อปี พร้อมเล็งหาโอกาสลงทุนธุรกิจใหม่ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ทั้งไฮโดรเจนการลงทุนในการดักจับคาร์บอน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ และหุ่นยนต์และ AI โดยปี 2565 จะลงทุนราว 1.9 แสนล้านบาท

(+) FORTH คว้าดีลใหญ่รถอีวี จ่อส่งมอบปีหน้า 2 พันล. (ทันหุ้น) FORTH คว้างานพาวเวอร์บอร์ดค่ายรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ทยอยส่งมอบปีหน้ากว่า 2 พันล้านบาท พร้อมเจรจาพันธมิตรลุยติดตั้งที่ชาร์จรถอีวี ส่วนปีนี้คาดรายได้เกิน 8 พันล้านบาท ลุยประมูลงานใหม่ 9.7 พันล้านบาทคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” กระแสดีปีหน้าแตะ 1 หมื่นตามเป้า

(+) SMD ขาย ATK เซเว่น คว้าออเดอร์ CPALL* ปั๊มงบแตะ 1.55 พันล. (ทันหุ้น) SMD รับออเดอร์จาก CPALL* วางจำหน่ายชุดตรวจโควิด -19 แบบเร่งด่วน ATK ในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นรุกขยายฐานผู้บริโภครายย่อย ทยอยรับคำสั่งซื้อเพิ่มกว่า 7 ล้านบาท ดันผลการดำเนินงานในปี 2564 แตะ 1.55 พันล้านบาทตามเป้า

(-) AOT* ยืดอีก 1 ปี พยุงแอร์ไลน์ ชงโอน 3 สนามบิน ม.ค. ปี 65 (ข่าวหุ้น) AOT ขยายเวลามาตรการพยุงแอร์ไลน์และผู้ประกอบการ 6 ท่าอากาศยานออกไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุด 31 มี.ค. 66 คาดปี 65 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3,037 ล้านบาท และปี 66 เพิ่มขึ้น 6,171 ล้านบาท ประเมินโอไมครอนยังไม่กระทบผู้โดยสารภายในประเทศ คาดกลับมาใกล้เคียงก่อนโควิด -19 ภายใน 3-4 เดือน พร้อมต่อยอดธุรกิจใหม่รองรับผลงานปี 65 ที่ยังไม่ฟื้นตัว จ่อชงครม. อนุมัติโอน 3 สนามบิน ม.ค. 65

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 21.3 บาท / แนวต้าน 21.8-22.0 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 21.2 บาท)
  • EPG* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 11 บาท / แนวต้าน 12.0 บาท (Stop loss 11 บาท)
  • OCEAN (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 1.62 บาท / แนวต้าน 1.72 1.8 บาท (Stop loss 1.60 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • AOT* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 74.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการปี 2565 เป็นขาดทุนสุทธิ 2.3 พันล้านบาท (จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 4.1 พันล้านบาท) และประมาณการปี 2566 เป็นกำไรสุทธิ 1.56 หมื่นล้านบาท (จากเดิม 2.29 หมื่นล้านบาท) คาดว่าการขยายมาตรการดังกล่าวจะทำให้มูลค่าหุ้นของ AOT ลดลงประมาณ 1.0 บาท/หุ้น จากมาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบิน และผู้ประกอบการเอกชนที่ได้สัมปทานสนามบินทั้งหกแห่ง แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
  • PTTEP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 145 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ปี 2564-65 ลง สะท้อนการปรับสมมติฐานปริมาณขายลดลง เนื่องจากความล่าช้าของการเข้าพื้นที่โครงการแหล่งเอราวัณ แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรอื IAA Consensus

- Advertisement -