บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Frasers Property Thailand (FPT TB) คาดหวังกับทรัพย์สินอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม
คงแนะนํา ถือ ลด TP เหลือ 12 บาท, ชอบ LH มากกว่า
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจที่อยู่อาศัยเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงล่างยังคงซบเซา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในไทยและเวียดนามอยู่ในเกณฑ์ดี และอสังหาฯ เชิงพาณิชย์รวมถึงโรงแรมจะค่อยๆดีขึ้น พร้อมกับการเปิดประเทศอีกครั้งจากฐานที่ต่ำในปี 64 เราคาดว่ากำไรจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักต่อปีในปี 65-66 เราปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายลงเป็น 12 บาท เราชอบ LH (ซื้อ, TP 10.3 บาท) ซึ่งมีลูกค้าหลักเป็นระดับกลางถึงสูงน่า จะได้ผลประโยชน์สูงสุดจากการผ่อนคลาย LTV
สรุปภาพรวมปี 64
ธุรกิจที่อยู่อาศัย (73% ของรายได้ทั้งหมด) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงในผลิตภัณฑ์หลักที่มุ่งเป้าที่กลุ่มระดับกลางถึงระดับล่าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ต่ำ และอัตราการปฏิเสธยกเลิกที่สูง ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมยังคงแข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเช่าที่สูงเป็นประวัติการณ์จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เฟื่องฟู สำหรับอัตราการเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานอยู่ที่ 92% แต่โรงแรม / ห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ซบเซา สรุปรายได้กำไรของบริษัทฯ ลดลง 21%/43% YoY ตามลำดับ
แนวโน้มปี 65
FPT ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายที่อยู่อาศัยและโครงการเปิดใหม่ 14% 16% YoY อีกทั้งมีแผนจะเพิ่มรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ยอดขายล่วงหน้า 1Q65 เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมยังคงสดใส ดังนั้น FPT จะรุกขยายพื้นที่เช่าโกดัง/โรงงานรวมถึงนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยและเวียดนามอย่างจริงจัง อาคารพาณิชย์แห่งใหม่สีลมเอดจ์จะเปิดตัวในปี 66 เพื่อแทนที่อาคารโกลเด้นแลนด์ ซึ่งสิทธิการเช่าจะหมดอายุในไม่ช้า การฟื้นตัวของโรงแรมทั้ง 5 แห่งในกรุงเทพฯและห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ขึ้นอยู่กับการเปิดประเทศ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ประมาณการปี 65-66
เราประมาณการกำไรสุทธิปี 65 จะเติบโตพอควรที่ 11.6% YoY จากฐานที่ในปี 64 และสำหรับปี 66 เราคาดว่ากำไรเติบโตดีขึ้นที่ +13.5% YoY ส่วนใหญ่มาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและค้าปลีก อัพไซด์รวมถึงมูลค่ากำไรจากการขายสินทรัพย์ผ่าน FTREIT และการฟื้นตัวของธุรกิจภายหลังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้จะมีแผนการลงทุนมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) แต่ก็สามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ประมาณ 1.4-1.5 เท่า การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 2 พันล้านบาทต่อปี ยังคงเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญอีกแหล่งหนึ่ง